Bank of Thailand Benchmark Interest Rate
Actual: 0.50% Previous: 0.50%
KTBGM: 0.50% Consensus: 0.50%
♦กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ “คง” ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามคาดหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้การฟื้นตัวเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการระบาดของ COVID-19 ซึ่ง กนง.พร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น
♦เราคงมองว่า ดอกเบี้ยนโยบายจะคงไว้ที่ระดับ 0.50% แต่กนง. อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 0.25%-0.50% หากมีการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 ที่รุนแรงกว่าเดิม
♦การประชุมครั้งถัดไป: 23 กันยายน 2563
กนง. มีมติเอกฉันท์ให้ “คง” ดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% หลังภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดีขึ้น
กนง. มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการLockdownและการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั่วโลก
แต่การฟื้นตัวแตกต่างกันมาก โดยภาคการส่งออกสินค้าเริ่มฟื้นตัวแต่การบริโภคและการลงทุนในประเทศยังคงหดตัวอยู่ส่วนภาคการท่องเที่ยวจากต่างชาติก็มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัวได้ดี จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี กนง. ยังมีความกังวลถึงแนวโน้มการระบาดระลอกที่ 2 ของ COVID-19
อีกทั้งมองว่ายังมีความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของธุรกิจและครัวเรือนที่สูงขึ้นสถาบันการเงินควรเตรียมรับมือด้วยการเร่งรัดปรับปรุงโครงสร้างหนี้และเร่งรัดการให้สินเชื่อผ่านโครงการช่วยเหลือต่างๆ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสู่กรอบเป้าหมายได้ในปี 2021 ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่จะค่อยๆปรับตัวขึ้นส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะมีแนวโน้มติดลบในปี 2020 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็จะคงอยู่ในระดับต่ำ
กนง. ยังคงกังวลการแข็งค่าของเงินบาท
โดยมองว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจทั้งนี้ กนง. ก็พร้อมใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไป
เราเชื่อว่า ถ้าไม่มีการระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ที่รุนแรง ขาลงของดอกเบี้ยนโยบายจะถูกหยุดไว้ที่ 0.50%
เราเชื่อว่า ธปท. มีมุมมองที่ “Less Dovish” สะท้อนถึงโอกาสการลดดอกเบี้ยที่ต่ำ
เพราะประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ได้ดีและยังไม่มีการระบาดระลอกที่ 2 หลังการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ตามคาดการณ์ของ กนง.และอาจเห็นการปรับเป้า GDP ขึ้นได้ในการประชุมครั้งถัดไป
อย่างไรก็ดี การลดดอกเบี้ยก็อาจเกิดขึ้นได้ หากมีการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 ที่รุนแรงทำให้ทั่วโลกและประเทศไทยกลับมาใช้มาตรการ Lockdown ที่เข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งเรามองว่า กนง. สามารถลดดอกเบี้ยลงได้ถึง 0.50 % ไปพร้อมกับการพักจ่ายค่าธรรมเนียม FIDF เพื่อกระตุ้นให้สถาบันการเงินลดดอกเบี้ยเงินกู้ราว 0.50% ขึ้นไป
ทั้งนี้ เราลดความคาดหวังต่อนโยบายลดการแข็งค่าของเงินบาท โดยเชื่อว่า ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ (ซึ่งจะเริ่มงานในเดือนตุลาคม) น่าจะเน้นใช้การปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและตลาดทุน (Structural Reform) เพื่อปรับสมดุลเงินไหลเข้า/ออกซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาทได้อย่างมีรูปธรรม