ให้น้ำหนักอ่อนตัวลงตาม ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เช้านี้ มากกว่าที่จะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นสหรัฐ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones จะปิดบวก 0.6% แต่หากมาพิจารณาตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเฉลี่ยแล้วจะอยู่ใน แดนบวกไม่เกิน 0.3% สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของสหรัฐอิงข้อมูลการประกาศผลประกอบการใน S&P500 พบว่ากลุ่ม Technology ประกาศออกมา แล้ว 38 บริษัทกว่า 35 บริษัท (92%) ออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาดสวนทางกับ SET INDEX อิงบริษัทใน SET100 ที่ประกาศออกมา 13 ตัวมีเพียง 2 ตัว (13%) ที่ดีกว่า Bloomberg คาดการณ์ที่เหลือเป็นไปในทิศทางตามคาดหรือต่ำกว่าคาด
ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้ จะมีการประชุม กนง. เราคาดคงดอกเบี้ยนโยบายเพื่อเก็บ Policy Space กรณีที่เศรษฐกิจทรุดตัวนานกว่าที่ตลาดคาดไว้สอดคล้องกับความเห็นจาก Bloomberg ที่คาดว่าที่ประชุมจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม โดยเป็นการสำรวจความเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด 26 ท่านกว่า 24 ท่าน ให้ความเห็นว่าที่ประชุมจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม ทั้งนี สิ่งที่มั่นใจได้คือดอกเบี้ยนโยบายยังจะอยู่ระดับต่ำแบบนี้ ไปอีกสักพักใหญ่ๆ จึงมองหุ้นที่ปันผลสูง (ADVANC ORI RATCH SPCG TTW WHAUP) ได้ประโยชน์รวมถึงกลุ่ม D/E สูงอย่างโรงไฟฟ้า (BGRIM GULF GPSC)
ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะสั้นเน้นเลือกหุ้นมีปัจจัยบวกตามชุดที่เรากล่าวไปข้างต้น รวมถึง กลุ่มค้าปลีก ที่ยัง Laggard (BJC CPALL (BK:CPALL) CRC) สุดท้าย CGS Coverage ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว (MEGA PTG TFG) ส่วนนักลงทุนระยะยาวยังแนะรอ บริเวณ 1250 ค่อยเริ่มทยอยสะสม
Stock Pick PTG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.6 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q20 ที่ 436 ล้านบาท (+ 2%YoY +114%QoQ) ถือเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งที่สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตได้ สวน ทางกับหลายอุตสาหกรรม / หลายหุ้น ที่กำไรสุทธิหดตัวหนัก โดยการเติบโตของ กำไรมาจาก (1) คาดค่าการตลาดดีขึ้นมาอยู่ที่ 1.9 บาท / ลิตร เทียบกับ 1.87 บาท / ลิตร ในช่วง 2Q19 (2) อุปสงค์น้ำมันดีเซลและเบนซินหดตัวเพียงเล็กน้อย ในช่วง Lock Down (เม.ย. - พ.ค.) ขณะที่ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค. ปริมาณ การใช้น้ำมันเบนซินกลับมาเติบโตเด่น 12%YoY กอปรกับปัจจัยหนุนจาก มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศจะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการ ครึ่งปีหลังสดใสต่อเนื่อง
CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45 บาท) ผลประกอบการ 2Q20 คาดขาดทุนจากการ Lock Down อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 24.6% จากจุดสูงสุด ล่าสุดเชื่อว่าสะท้อนความผิดหวังต่อผลประกอบการไปแล้ว ขณะเดียวกันมองว่า ผลประกอบการ 2Q20 ที่ขาดทุนในอีกมุมมองจะเป็นจุดต่ำสุดและคาดครึ่งปีหลัง จะเห็นการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก นอกจากนี้ ยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศจากทางรัฐบาล ซึ่งจะเป็น Upside ในอนาคต
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th