คาด SET INDEX เคลื่อวไหวกรอบ 1300 - 1320 ช่วงเปิดตลาดอาจมีจังหวะของการ รีบาวน์หลังจากปรับตัวลงมาแรง 1.69% อย่างไรก็ตามคาดไปได้ไม่ไกลมากนักเนื่อง จากมีปัจจัยลบกดดันหลายปัจจัย อาทิ ( 1 ) บรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบจาก Nikkei , Dow Jones ที่ปรับตัวลง
( 2 ) ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่่ากว่าคาดการณ์ วานนี้เยอรมนีรายงาน GDP 2Q20 ออกมาที่ -11.7 %YoY ต่่ากว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ -10.7 %YoY ส่วน GDP 2Q20 สหรัฐออกมาที่ -32.9 %QoQ ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดที่ -34.5 %QoQ อาจจะเห็นว่าดีกว่าที่คาดแต่ก็ นับเป็นการหดตัวแรงที่สุดในรอบ 70 ปี
( 3 ) แรงกดดันจากกลุ่มน้่ามัน เมื่อคืนราคา น้่ามันดิบ BRENT ปรับฐานลง 1.9 % วิตกอุปสงค์ที่หายไปจากการแพร่ระบาดของ COVID -19 ล่าสุดจ่านวนผู้ติดเชื้อต่อวันอยู่ที่ 2.89 แสนคนนับเป็นระดับที่สูงสุดใน ประวัติการณ์ ด้านปัจจัยในประเทศ ( 1 ) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนล่าสุด SET100 ที่แจ้งผล ประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯมีกำไรสุทธิ 2Q20 รวมกันที่ 3.8 หมื่นล้านบาท ( - 42 %YoY -29 %QoQ ) ส่าหรับ PTTEP วานนี้รายงานก่าไรสุทธิ 2Q20 ที่ 4.3 พันล้าน บาท ( -68 %YoY -50 %QoQ) สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์โดยก่าไรครึ่งปี แรกคิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปีของเรา ขณะเดียวกันคาดว่า 2Q20 จะเป็น จุดต่่าสุดของผลประกอบการและคาดว่า 3Q20 จะเห็นการฟื้นตัว QoQ หนุนจาก ปริมาณการขายที่จะดีขึ้นตามอุปสงค์ทั่วโลกที่ดีขึ้นจากการผ่อนคลาย Lock Down (2) วานนี้นายกรัฐมนตรีได้น่า 6 รายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าปรากฎว่ารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังเป็นนายปรีดี ดาวฉาย สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จึงมองไม่มีผลใดๆมากนัก ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ส่าหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะหุ้นมีปัจจัยบวก อาทิ หุ้นที่ 2Q20 คาดว่าจะเห็นการเติบโต YoY (CBG MEGA PTG TASCO) แต่ควรมีจุด Stop Loss ชัดเจนและควรใช้เม็ดเงินไม่มากนัก ส่วนนัก ลงทุนระยะกลาง - ยาว ยังมองบริเวณ 1250 เป็นจุดเริ่มแรกที่จะเริ่มทยอยสะสม
Stock Pick
PTG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.6 บาท) คาดก่าไรสุทธิ 2Q20 ที่ 436 ล้านบาท (+ 2 %YoY +114 %QoQ) ตามผลบวกจากค่าการตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.9 บาท / ลิตร จาก 1.6 บาท / ลิตร ใน 1Q20 ถือว่าเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งเนื่องจากมีผล ประกอบการที่เติบโต YoY แม้ช่วง 2Q20 จะมีการ Lock Down เกิดขึ้น ขณะที่ Outlook ครึ่งปีหลังค่อนข้างสดใส ( 1) รัฐบาลมีการผ่อนคลายกิจกรรมในประเทศ หนุนอุปสงค์การบริโภคน้่ามันกลับมาเติบโต HoH สอดคล้องกับปริมาณการใช้น้่ามัน เบนซินและดีเซลที่อุปสงค์เดือน มิ.ย. กลับมาใกล้เคียงกับระดับปกติแล้วและสัปดาห์ แรกของ ก.ค. อุปสงค์น้่ามันเบนซินเติบโต 12 %YoY , ดีเซล 2 %YoY MEGA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35 บาท) แม้ราคาตลาดจะเหลือ Upside ไม่สูงมาก จากราคาเป้าหมายของเรา แต่มองว่าด้วยการที่ผลประกอบการบริษัทยังคาดว่าจะ เห็นการเติบโต YoY หนุนจากยอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริการท่าให้ บริษัทยังดูน่าสนใจในการเก็งก่าไร ส่วนก่าไรทั้งปีคาดว่าจะเติบโตได้ 14 %YoY ขณะที่ 1Q20 สามารถเติบโตได้ถึง 26 %YoY ถือว่าแข็งแกร่งกว่ากลุ่มอื่นๆ
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th