เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์เต็มแล้วที่ดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายอย่างต่อเนื่องและเมื่อคืนนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนความจริงในเรื่องนี้ได้ แถลงการณ์จากประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ยังคงย้ำเตือนถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเพราะวิกฤตโรคระบาดพร้อมทั้งเน้นย้ำว่าธนาคารกลางฯ พร้อมทำทุกอย่างไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตามเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในตอนนี้เอาไว้ให้ได้
ทันทีที่แถลงการณ์จากเฟดจบลงนักลงทุนก็ไม่รอช้าเทขายดอลลาร์สหรัฐต่อทันทีส่งผลให้ดอลลาร์ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดใหม่เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ กราฟยูโรเทียบดอลลาร์ยังเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด ตามมาด้วยปอนด์ สวิตฟรังก์และออสเตรเลียดอลลาร์ สาเหตุที่ดอลลาร์ในตอนนี้ไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนนอกจากเรื่องของโควิด-19 แล้วส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะรายงานจากประธานเฟดที่เผยว่าการลงทุนในภาคธุรกิจยังไม่กลับมาแม้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายเพื่อเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อ ราคาอาหารที่แพงขึ้นสร้างภาระให้กับผู้บริโภค ทุกวันนี้ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังเพิ่มสูงขึ้นและเงินเยียวยาสำหรับผู้ว่างงานก็จะหมดอายุลงในวันพรุ่งนี้แล้ว นี่คือสาเหตุว่าทำไมเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นถึงได้เงียบเหงานักในช่วงที่มีแถลงการณ์จากเฟดและเป็นสาเหตุว่าทำไมกราฟราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีถึงได้ร่วงลงอีกเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ประธานเฟดคงไม่มีข่าวดีอะไรมาบอกแก่นักลงทุนได้
ความน่ากังวลของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ยังไม่จบลงเพราะวันนี้ยังมีรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ รออยู่ นักวิเคราะห์มองกันว่ารายงานตัวเลข GDP ในวันนี้จะสะท้อนความกังวลที่ประธานเฟดมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างดี เมื่อคืนพาวเวลล์ได้พูดถึงตัวเลข GDP ในวันนี้ว่าจะเป็นรายงานตัวเลขที่ออกมาแย่ที่สุดตั้งแต่ประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นมาเลย การเทขายดอลลาร์แสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่ฝากความหวังอะไรไว้กับสกุลเงินดอลลาร์แล้วซึ่งไม่เหมือนกับช่วงไตรมาสที่ 1 ที่อย่างน้อยก็ยังสามารถพูดปลอบตัวเองได้ว่าเป็นแค่ผลกระทบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น จริงอยู่ว่าข่าวความคืบหน้าการผลิตวัคซีนอาจทำให้ตลาดสามารถดีใจขึ้นมาได้อย่างฉับพลันแต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าออกมารับปากได้เลยว่าจะสามารถผลิตยาออกมาใช้งานได้จริงๆ ภายในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนักลงทุนจะเป็นกังวลกับตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ แล้วพวกเขายังเป็นห่วงกับสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากไม่มีเงินช่วยเหลือพิเศษให้กับเหล่าผู้ว่างงานเพราะถึงแม้จะมีการยืนยันถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ออกมาแล้วแต่ครั้งนี้ไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับประชาชนชาวอเมริกัน
สถานการณ์ในสหรัฐฯ นั้นตรงกันข้ามกับฝั่งยุโรปโดยสิ้นเชิงซึ่งเห็นได้ชัดจากกราฟขาขึ้นของ EUR/USD ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจยังคงดีและดีขึ้นต่อไปส่วนภาพรวมของตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 3 ของยูโรโซนดูสดใสมากแม้ว่าจะมีการคาดการณ์กันว่าตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 2 ของเยอรมันจะหดตัวลงก็ตาม จากรายงานล่าสุดพบว่าการกลับมาเปิดเมืองเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจทำให้ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยในเยอรมันและฝรั่งเศสดีขึ้นในขณะที่ตัวเลขการบริโภคกลับมาอยู่ใกล้เคียงกับระดับก่อนช่วงไวรัสระบาดแล้ว แม้ว่าล่าสุดจะพึ่งมีข่าวตัวเลขการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นจนเป็นที่สังเกตในยุโรปแต่เมื่อเทียบภาพรวมทางเศรษฐกิจระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ ตอนนี้ถือว่าอนาคตฝั่งยูโรโซนนั้นดีกว่ามาก นี่คือเหตุผลว่าทำไมขาขึ้นของกราฟ EUR/USD ตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมถึงได้แข็งแกร่งนักและมีเพียง 5 วันจากทั้งเดือนเท่านั้นที่กราฟอยู่ในแนวโน้มขาลง
เมื่อวานนี้สกุลเงินอย่างปอนด์ ออสเตรเลียดอลลาร์และนิวซีแลนด์ดอลลาร์ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียออกมาดีกว่าที่คาดการณ์แม้ตัวเลขที่ออกมาในไตรมาสที่ 2 จะลดลง ปอนด์ได้รับแรงหนุนมากจากตัวเลขการอนุมัติการจำนองที่เพิ่มขึ้นแม้ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยจะลดลงเล็กน้อย ส่วนนิวซีแลนด์ตัวเลขความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจดีขึ้นอันเป็นผลมาจากการอนุญาตก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในออสเตรเลีย