คาดสัปดาห์นี้ SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบ 1315 – 1350 ประเมิน ปัจจัยที่มีผลและเกิดในสัปดาห์นี้ได้แก่
1. ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน สัปดาห์ก่อนบริษัทใน SET 100 ที่รายงานงบต่อตลาดตลาดหลักทรัพย์ฯราว 8 บริษัทคิดเป็นมูลค่าตลาด รวมกัน 7% Market Capitalization ของ SET INDEX มีกำไรสุทธิ 2Q20 รวมกัน 2.47 หมื่นล้านบาท (-45%YoY , -35%QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 23% ขณะที่มีหุ้นบางตัว (BBL KBANK (BK:KBANK)) กำไรสุทธิครึ่งปีแรกน้อยกว่า 50% ของประมาณการทั้งปีที่ Bloomberg คาดการณ์บ่งชี้ถึงโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับลดกำไรตลาดฯลง ล่าสุด EPS’20E อยู่ที่ 62.75 B/S (-1.6%) จากต้นเดือน ก.ค. (ก่อนประกาศงบ)
ดังนั้นยังต้อง ติดตามต่อกับผลประกอบการในสัปดาห์นี้คาดว่าจะมี PTTEP HMPRO รายงานผลประกอบการหากต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อาจนำมาซึ่งการปรับลดประมาณการลงต่อซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดัน Upside ดัชนี อย่างไรก็ตามหากดีกว่าคาดจะเป็นแรงหนุนได้ ส่วนหุ้นที่มีกำไรดีกว่าเรา และตลาดคาดได้แก่ DELTA โดยเราปรับกำไรปี 20 , 21 ขึ้น 105% , 23% ตามลำดับพร้อมกับราคาเป้าหมายใหม่ที่ 84 บาทจาก 56.5 บาท อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 67% ในช่วง ก.ค. สะท้อนผล ประกอบการที่ดีไปแล้ว
2. สัปดาห์นี้คาดกลุ่มส่งออก (CPF TFG) จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามา สัปดาห์ก่อนกระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกเดือน มิ.ย. แม้ทั้งหมดจะหดตัว 17%YoY แต่ยังพบว่าไก่สดแช่เย็น , แช่แข็ง , แปรรูปยังคงขยายตัว ได้ต่อเนื่อง 4.6%YoY และคาดว่าจะขยายตัวต่อในช่วงที่เหลือตาม อุปทานที่หายไปของบราซิลผลจากการระบาด COVID-19 ขณะที่ผล ประกอบการ 2Q20 อาจชะลอตัวช่วงสั้นผลกระทบจาก Lock Down
อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคาหมูและไก่ในประเทศฟื้นตัวแล้ว กอปรกับราคาหมูในเวียดนามยังน่าจะยืนระดับสูงได้อย่างน้อย 1 ปีจากนี้ 3. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธ คาดที่ประชุมคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมแต่แนะติดตามการแถลง เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐหากมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแล้ว เชื่อว่าจะหนุนให้ตลาด หุ้นกลับมาเคลื่อนไหวดีขึ้นได้
Weekly Strategy : เน้นกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นมีปัจจัยบวก อาทิ 2Q20 ที่ผลประกอบการจะเห็นการเติบโต YoY (CBG MEGA TASCO) กลุ่มที่งบครึ่งปีหลังจะเห็นการฟื้นตัวแข็งแกร่ง (BJC CPF CRC CPALL (BK:CPALL) CPN TFG) และหากระหว่างสัปดาห์ถอยหลุด 1320 ให้เพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้น ASIAN (ขาย / ราคาเป้าหมาย 7.2 บาท) ปรับคำแนะนำเป็น “ขาย” จากซื้อ มองเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้จังหวะการปรับตัวขึ้นมา 193% จากจุดต่ำสุดเป็นโอกาสขาย โดยมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนผล ประกอบการ 2Q20 ที่คาดว่าจะดีไปมากแล้ว
เราคาดกำไรสุทธิที่ 110 ล้านบาท (+400%YoY +5%QoQ) ผลจากความต้องการอาหาร แช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยงที่สูงขึ้นชั่วคราวจากการ Lock Down กอปรกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นผลจากการอ่อนค่าของเงินบาท คาดอัตรากำไรขั้นต้น 2Q20 ที่ 13.5% เทียบ 2Q19 ที่ 8.2% ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดผลประกอบการจะอ่อนตัวลง HoH อุปสงค์ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ CPN (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 68 บาท) แม้ 2Q20 จะไม่สดใสแต่จะเป็นจุดต่ำสุดเราคาด 2Q20 ขาดทุนปกติ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการในเดือน ก.ค. กลับเข้าสู่ระดับ 75% แล้วและถ้าไม่รวมสาขาที่อิงกับนักท่องเที่ยวอย่าง พัทยา , เกาะสมุย จำนวนผู้ใช้บริการกลับมาถึงระดับ 80% แล้วจึงคาด 3Q20 จะกลับมามีกำไรปกติเติบโต QoQ แต่ยังน่าจะหดตัว YoY เนื่องจากยังมีส่วนลดให้กับผู้เช่าที่รับผลกระทบจาก COVID-19
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th