🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ยูโรเทียบดอลลาร์ขึ้นขนาดนี้มีโอกาสจะถึง 1.20 เลยหรือไม่?

เผยแพร่ 24/07/2563 15:01
EUR/USD
-
GBP/USD
-
AUD/USD
-
USD/CAD
-
NZD/USD
-
CL
-

ยูโรตอนนี้กลายเป็นสกุลเงินที่ได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยังถือว่าเป็นกราฟคู่สกุลเงินที่ทำผลงานขาขึ้นได้ดีที่สุดในตอนนี้ กราฟยูโรเทียบดอลลาร์วิ่งขึ้นมาจาก 1.12 จนสามารถขึ้นมาถึง 1.16 ได้ภายในเวลาไม่นานและขาขึ้นเมื่อวานนี้สร้างสถิติให้ EUR/USD กลายเป็นกราฟที่สร้างขาขึ้นได้ 9 จาก 10 วันล่าสุด สาเหตุที่ยูโรสามารถขึ้นได้อย่างต่อเนื่องก็มาจากข่าวที่เราได้รายงานกันมาตลอดทั้งสัปดาห์แต่ที่มีส่วนผลักดันกราฟมากที่สุดก็คือการตกลงจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 โดยกลุ่มผู้นำแห่งประเทศในสหภาพยุโรป 

ข่าวดีไม่เพียงส่งผลดีต่อแนวโน้มขาขึ้นของยูโรเทียบดอลลาร์เท่านั้นแต่ยังหมายถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปมีความเป็นรูปธรรมอย่างจับต้องได้มากกว่าเมื่อเทียบกับฝั่งดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาโควิดได้อย่างเบ็ดเสร็จ ดังนั้นแม้จะมีการยืนยันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 2 ว่ามาแน่แต่ถ้าไม่มีข่าวว่าจะมีการยืดเวลาการมอบสิทธิ์ประโยชน์พิเศษให้กับคนตกงานแล้วละก็มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ก็จะขาดแรงจูงใจให้นักลงทุนหันมาถือดอลลาร์ ทั้งหมดคือสาเหตุว่าทำไมถือเงินยูโรจึงน่าสนใจกว่าดอลลาร์ในตอนนี้

นอกจากเรื่องปัจจัยทางการเมืองที่มีผลส่งให้ยูโรมีภาษีดีกว่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แล้ว ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองทวีปก็จะยิ่งมีความแตกต่างที่ชัดเจนขึ้น ในขณะที่ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจฝั่งยุโรปเริ่มดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ มาสักพักแล้วฝั่งสหรัฐฯ ยังต้องจับตาดูอยู่ว่าจะมีวันไหนที่ข้อมูลออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์บ้าง ลองสามารถเริ่มสังเกตเปรียบเทียบได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่จะมีการประกาศในวันนี้ของทั้งฝั่งยูโรโซนและสหรัฐฯ ได้ ฝั่งยูโรโซนไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะข้อมูลตัวเลขน่าจะออกมาดีขึ้นแต่ของฝั่งสหรัฐฯ นักลงทุนอาจจะเริ่มได้เห็นสัญญาณแรกของการกลับมาชะลอตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หลายรัฐในสหรัฐฯ ได้สั่งหยุดแผนการการกลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจไปแล้วซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหลือเพีัยงปัจจัยแห่งเวลาเท่านั้นก่อนที่ความเป็นจริงนี้จะไปปรากฎเป็นข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจ

ปัญหาเรื่องโควิดก็ยังไม่สามารถแก้ได้แต่สหรัฐฯ ก็ยังมีเวลาไปเพิ่มความขัดแย้งให้สงครามการค้ากับจีนให้ยิ่งร้อนระอุขึ้น แม้จะมีข่าวดีเรื่องการทำข้อตกลงซื้อยาวัคซีนล่วงจากจากบริษัท Pfizer แล้วแต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะกดกราฟ EUR/USD ย่อตัวลงมาอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นจนกว่าจะได้เห็นข่าวร้ายในฝั่งยุโรปเราเชื่อว่าขาขึ้นน่าจะยังคงอยู่กับกราฟ EUR/USD ต่อไป เมื่อราคาสามารถยืนเหนือ 1.16 ได้ แนวต้านถัดไปก็จะอยู่ที่ 1.17 ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแนวต้านตามหลัก Fibonacci รออยู่ หากว่ากราฟสามารถหลุดแนวต้านเหล่านั้นขึ้นไปได้เราก็อาจจะได้เห็นกราฟ EUR/USD ที่ 1.20

กราฟปอนด์เทียบดอลลาร์ยังคงสามารถวิ่งขึ้นได้แม้ว่าการเจรจา Brexit เมื่อวานนี้ EU ได้ออกมาเตือนตัวแทนจากฝั่งสหราชอาณาจักรว่า “พวกเราอาจจะไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ภายในสิ้นปีนี้” สาเหตุที่ GBP/USD ยังยืนอยู่ในขาขึ้นได้เพราะความหวังของนักลงทุนที่มีต่อรายงานตัวเลขยอดขายปลีกที่จะประกาศในวันนี้ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะได้เห็นตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยที่ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว ส่วนกราฟ USD/CAD ปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือนแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับลดลงก็ตาม

สกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ย่อตัวกลับลงมาหลังจากที่กราฟทราบข่าวการคาดการณ์จากรัฐบาลออสเตรเลียว่าปีนี้ประเทศอาจขาดดุลมากถึง 184,500 ล้านออสเตรเลียดอลลาร์ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกือบมากกว่าตัวเลขปีงบประมาณที่พึ่งประกาศปิดงบไปเมื่อเดือนแล้ว $100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้กราฟ AUDUSD ยังได้รับผลกระทบจากข่าวที่วันก่อนรัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวประมาณ 2.5% ในปีหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกแร่โลหะที่เป็นการส่งออกหลักของประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นข่าวร้ายที่กระทบต่อออสเตรเลียที่ยังไม่ได้รวมเรื่องการระบาดรอบที่ 2 ของโควิด-19 จนนำไปสู่การล็อกดาวน์รัฐวิคตอเรีย

สถานการณ์ตอนนี้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและจำนวนของผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 เดือนจนรัฐบาลออสเตรเลียต้องสั่งให้ประชาชนทุกคนที่อยู่ในเมลเบิร์นต้องใส่หน้ากากอนามัย นิวซีแลนด์ดอลลาร์ปรับตัวลงเพราะข้อมูลตัวเลขดุลบัญชีการค้าออกมาลดลงจากครั้งก่อนที่ 1286M เหลือ 426M ขึ้นไม่ถึงตัวเลขคาดการณ์ที่ 450M ด้วยซ้ำส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเมื่อครั้งก่อนทั้งคู่

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย