กราฟคู่สกุลเงินส่วนใหญ่เปิดสัปดาห์นี้มาด้วยแรงส่งของขาขึ้นไม่ว่าจะเป็นกราฟ EUR/USD หรือ USD/JPY ก็ต่างปรับตัวสูงขึ้นเพราะความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด-19 และการพูดเงินเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในหมู่นักลงทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเดตไลน์ที่ใกล้เข้ามา นักลงทุนค่อนข้างมีความหวังกับข่าวการพัฒนาวัคซีนโดยมหาลัยชื่อดังอ๊อกซฟอร์ดที่ร่วมงานกับบริษัทยา AstraZeneca (NYSE:AZN) ในการทดลองกับอาสาสมัคร 1,077 คนและพบว่าวัคซีนสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ 2 แบบทั้งแบบแอนติบอดี (Protective neutralizing antibodies) และเม็ดเลือดขาวที่สามารถต่อสู้กับไวรัสโควิด (Immune T-cells) ได้เป็นระยะเวลา 2 เดือนโดยที่ไม่มีผลข้างเคียง
ตอนนี้ทั่วโลกเรามีวัคซีนต้านโควิดมากกว่า 100 ตัวที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและมีเพียง 23 ตัวเท่านั้นที่เริ่มเข้าสู่กระบวนการทดลองในมนุษย์แล้วบนความหวังที่ว่ามนุษยชาติจะสามารถพบยาต้านโควิดที่แท้จริงได้ก่อนสิ้นปีนี้ ทุกคนหวังให้วัคซีนสามารถพลิกเกมและทำให้เราสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า ตลาดหุ้น สกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์จะได้กลับสู่ที่ที่ควรเป็น อย่างไรก็ตามคำถามใหม่ต่อจากการได้วัคซีนมาแล้วคือขั้นตอนของการแจกจ่ายที่ว่าการจะส่งให้ถึงกันทั่วทั้งโลกต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่
แพคเกจเงินเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจอีกหนึ่งรอบของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจช่วยให้ตลาดฟอเร็กซ์ปรับตัวขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ผู้นำจากพรรครีพับลิกัน (GOP) ได้เข้าพบตัวแทนจากทำเนียบขาวเมื่อวานนี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการลดภาษีและวิธีที่จะทำให้เงินสามารถเข้าถึงมือประชาชนได้โดยตรง พวกเขาหวังว่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุดเพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันเท่านั้นก็จะถึงวันหมดอายุของกรอบเวลาเงินเยียวยารอบก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนค่อนข้างเป็นกังวลว่าถ้าทำเนียบขาวไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ทันเวลาจะทำให้เราได้เห็นข่าวบริษัทยื่นล้มละลายเยอะขึ้นและประชาชนจะยิ่งไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นไปอีก สกุลเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้จะวิ่งขึ้นหรือลงก็ขึ้นอยู่กับข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิดล้วนๆ เพราะไม่มีข่าวทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
ฝั่งทวีปยุโรปตอนนี้นักลงทุนยังให้ความสำคัญกับการประชุมของกลุ่มผู้นำแห่งยุโรปและการตัดสินใจเกี่ยวกับเงินฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ พวกเขาประชุมกันมาเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้วและคาดว่าจะได้ข้อสรุปการประชุมในไม่เกิน 2 วันนี้ ประธานคณะกรรมธิการยุโรปนางอัวร์ซูลา แกร์ทรูท ฟ็อน แดร์ ไลเอินกล่าวว่า “การประชุมของพวกเรามาถึงจุดสำคัญแล้วและทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี” อย่างไรก็ตามประเทศเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดนและออสเตรียหรือกลุ่ม Frugal Four ยังคงมีความเห็นที่ต่างออกไปจากเสียงส่วนใหญ่ พวกเขามองว่าเงินฟื้นฟูในครั้งนี้ควรออกมาเป็นในรูปแบบของการกู้ยืมมากกว่าที่จะให้ไปเลยแม้จะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่รัดกุมก็ตาม
ในส่วนของนักลงทุนที่ถือออเดอร์คู่ยูโรเทียบดอลลาร์ต่างหวังให้ผลการเจรจาครั้งนี้สามารถปิดฉากลงได้อย่างสวยงามและพาออเดอร์ของพวกเขาขึ้นไปปิดที่ 1.15 แต่ถ้าผลการประชุมไม่ออกมาเป็นไปตามที่หวังเราอาจจะได้เห็นกราฟ EUR/USD สร้างรูปแบบ Double-top ลงมาจากความผิดหวังของนักลงทุน กราฟที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อวานนี้คือคู่ปอนด์เทียบดอลลาร์เพราะข่าวทางเศรษฐกิจเมื่อวานที่ดีขึ้นแต่ที่นักลงทุนต้องการเห็นจริงๆ ในสัปดาห์นี้คือรายงานตัวเลขยอดขายปลีกและดัชนี PMI
สกุลเงินที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลักทั้งสามตัวต่างปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์คือผู้นำซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยเพราะประเทศยังสามารถรักษามาตรฐานการควบคุมโควิดเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมต่อเนื่องยาวนาน เมื่อวานนี้มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ดัชนี PMI ทั้งในภาคการผลิตและบริการในเดือนมิถุนายนยังคงเติบโตได้เป็นอย่างดี ดัชนี PSI กระโดดขึ้นจาก 37.5 เป็น 54.1 สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ตัวเลขการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตในวันนี้ก็ลดลงจาก -20.6% ครั้งก่อนเป็น -9.2%
สำหรับออสเตรเลียดอลลาร์วันนี้ไม่มีข่าวไหนเด่นไปกว่ารายงานการประชุมจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และแถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียอีกแล้ว นายฟิลิป โลวีค่อนข้างเป็นกังวลกับการล็อกดาวน์ในเมลเบิร์นเพราะการระบาดของโควิด-19 นอลที่ 2 และยังบอกอีกว่า RBA จะคงอัตราเงินเฟ้อเอาไว้ในระดับต่ำไปอีกสักพักและอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 10 จุดเบสิส นอกจากนี้ RBA ยังได้แสดงตัวเลขปีงบประมาณเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่การระบาดของโควิดเริ่มขึ้น
สุดท้ายแคนาดาดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ก่อนที่การรายงานตัวเลขยอดขายปลีกจะออกเพราะตลาดมีความเชื่อมั่นมาจากอัตราการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก นักลงทุนหวังว่าตัวเลขยอดขายปลีกในเดือนพฤษภาคมจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ กราฟ USD/CAD มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1.35 ถ้าหากตัวเลขยอดขายปลีกออกมามากกว่าที่คาดการณ์ประกอบกับดอลลาร์สหรัฐที่ยังไม่มีข่าวดี กราฟ USD/CAD มีสิทธิ์หลุดแนวรับนี้แล้วมุ่งหน้าสู่จุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน