สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อนักลงทุนพากันเข้าถือเงินยูโรบนความหวังที่ว่าจะได้ฟังข่าวดีเกี่ยวกับงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ นักลงทุนคงฝากความหวังไว้กับสกุลเงินยูโรมากจริงๆ ถึงขนาดว่าตลาดหุ้นยุโรป เอเชียและตลาดซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายของเมื่อวาน สาเหตุว่าทำไมพฤติกรรมราคาถึงได้ออกมาเป็นเช่นนี้เราไม่ทราบแน่ชัด อาจเป็นเพราะตอนนี้สกุลเงินสำรองหลักของโลกอย่างดอลลาร์กำลังโดนโควิดเล่นงานอย่างหนักเลยทำให้นักลงทุนต้องมองหาสกุลเงินสำรองเบอร์สองชั่วคราว
ในขณะเดียวกันกราฟราคาพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 1.5 จุดเบสิส ยิ่งเป็นการยืนยันว่านักลงทุนยอมขายหุ้นเพื่อมาถือสกุลเงินเอาไว้ ถ้าทำถึงขนาดนี้แล้วนักลงทุนขาขึ้นคงจะไม่หยุดจนกว่ากราฟจะสามารถทะลุแนวตต้าน 1.1450 ขึ้นไปได้หรือจนกว่าการประชุมของผู้นำยุโรปจะได้ข้อตกลงกันเรื่องเงินกองทุนฟื้นฟูเสียก่อน
กราฟยูโรเทียบดอลลาร์จบรูปแบบธงลู่ลงเรียบร้อยแล้วจากที่ราคาได้หลุดกรอบออกมาและเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แรงกระทิงรอบล่าสุดนี้เป็นการยืนยันว่าธงลู่ลงที่พึ่งจบไปนั้นเป็นเพียงการย่อของแนวโน้มขาขึ้นหลักที่เริ่มขึ้นมาตั้งแต่จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมลากยาวมาจนถึงวันที่ 10 มิถุนายนและนับเป็นขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2013
อย่างไรก็ตามการทะลุออกนอกกรอบครั้งนี้ไม่ใช่การทะลุออกมาด้วยความแรงและไม่ได้แสดงให้เห็นทันทีว่าขาขึ้นพร้อมที่จะไปต่อ จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยอดผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและกดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ลงประกอบกับเรื่องการประชุมของกลุ่มผู้นำยุโรปในหัวข้อการอนุมัติเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจกลายเป็นที่จับตามองและกลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุนในตลาดจนสามารถดันยูโรให้สูงขึ้นเหนือจุดสูงสุดเก่าเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนได้ ถึงกระนั้นนักลงทุนก็ยังไม่ควรประมาทเพราะแท่งเทียน 3 วันล่าสุดแสดงให้เห็นว่ายังมีการต่อสู้กันของราคา ณ บริเวณแนวต้านนี้
แม้ราคาจะเปิดวันมาด้วยราคาที่สูงกว่า 1.1423 ได้แต่เพราะราคานี้ประกอบกับจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ 1.1494 สร้างเป็นโซนแนวต้านขึ้นมาจึงทำให้แม้ราคาจะหลุดแนวต้าน 1.1423 ขึ้นมาได้จริงก็จะยังต้องติดแนวต้านที่ 1.1494 อีกที ที่สำคัญบริเวณนี้ใกล้กับเส้นแนวต้านจิตวิทยาที่ 1.15 เป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีข่าวดีมาสนับสนุนที่แรงพอลำพังแรงซื้อจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่อาจทำให้ราคาหลุดโซนแนวต้านทั้ง 3 ที่กล่าวมาได้
ในส่วนของอินดิเคเตอร์ตอนนี้หันมาสนับสนุนขาขึ้นกันหมดแล้ว เส้นค่าเฉลี่ย 50 DMA ตัดทั้งสองเส้นขึ้นไปได้ก่อนหน้านี้และตอนนี้เส้น 100 DMA กำลังจะตัดเส้น 200 DMA ตามมาติดๆ ส่วนอินดิเคเตอร์หลักอย่าง MACD, RSI และ ROC ต่างส่งสัญญาณมาแล้วว่าพร้อมที่จะปรับตัวขึ้น
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้ราคาฝั่งขึ้นสะสมแรงเหนือแนวต้าน 1.15 เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีคนต้องการซื้อที่บริเวณดังกล่าวจริงๆ แท่งเทียนที่เป็นแท่งยืนยันจะต้องเป็นแท่งเทียนสีเขียวที่มีขนาดของตัวแท่งมากกว่าไส้และต้องอยู่เหนือ 1.1500
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะลองเสี่ยงเข้าซื้อเมื่อกราฟสร้างราคาปิดเหนือ 1.15 ได้
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางลอตเล็กๆ ในฝั่งขาลงเพื่อเก็บกำไรในช่วงสั้นๆ เพราะมั่นใจว่ามี Stop-loss อยู่ใกล้ๆ
ตัวอย่างการเทรด (ขาลง)
- จุดเข้า: 1.1465
- Stop-Loss: 1.1475 (เหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนเมื่อ 3 ชั่วโมงล่าสุดก่อนวางออเดอร์)
- ความเสี่ยง: 10 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:1.1405 (เหนือระดับตัวเลขจิตวิทยา)
- ผลตอบแทน: 60 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:6