เราคาดการณ์ว่าภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้นักลงทุนอาจจะได้เห็นสกุลเงินหยวนได้รับความสำคัญจากตลาดมากกว่าสกุลเงินดอลลาร์ ก่อนหน้านี้เราได้ย้ำมาในหลายๆ บทความแล้วว่ามูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์กำลังอ่อนมูลค่าลงและเราได้เน้นย้ำเช่นนั้นมาตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม
มีปัจจัยหลายอย่างบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์ไม่ว่าจะเป็นอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ทุกวันนี้ยังมีผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานเกินระดับ 1 ล้านคนทุกสัปดาห์และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจจะต้องผ่อนคลายนโยบายทางการเงินลงมาอีก ตอนนี้นักลงทุนเริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องที่สกุลเงินดอลลาร์มีโอกาสจะเสื่อมสถานะการเป็นสินทรัพย์สำรองของโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะใครจะเชื่อว่าไวรัสที่เป็นปัญหาของสุขภาพจะสามารถโยงมาถึงเรื่องการเงินได้และเราก็รู้ดีว่าตอนนี้ประเทศอะไรกำลังเป็นเบอร์ 1 ของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก
ในทางกลับกันประเทศจีนกำลังทำทุกอย่างเพื่อส่งเสริมให้โลกใช้สกุลเงินหยวนของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ได้นำเงินบางส่วนไปถือสกุลเงินหยวนเอาไว้เป็นสินทรัพย์สำรองภายในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนที่คนจะเริ่มตั้งคำถามว่าหยวนจะมาแทนที่ดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์สำรองได้จริงๆ หรือเสียอีก
ธนาคารสำหรับการลงทุนชื่อดังโกลด์แมน แซคส์ทำนายว่ากราฟสกุลเงินดอลลาร์เทียบหยวนจะปรับตัวลดลงไปยัง 6.7 ภายในอีก 12 เดือน จากราคาปัจจุบันซึ่งกราฟอยู่ที่ 6.98 ประกอบกับการฟื้นตัวจากโควิด-19 ของจีนเรามองว่าสิ่งที่โกลด์แมน แซคส์พูดมีความเป็นไปได้อยู่มากและจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคนี่อาจจะเป็นคู่สกุลเงินสำหรับนักลงทุนที่ต้องการวางคำสั่งขายในระยะยาว
กราฟ USD/CNY ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันแล้วแต่ราคาก็ยังสามารถยืนอยู่เหนือแนวรับสำคัญจากเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2018 และเส้นค่าเฉลี่ย 100 สัปดาห์ได้ แม้ว่าแนวรับเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นจุดเข้าให้กับนักลงทุนขาขึ้นได้ดีแต่เรากลับมองว่าขาขึ้นใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะเป็นเพียงขาขึ้นระยะสั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่กราฟสร้างรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ของขาลงได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
อินดิเคเตอร์หลักๆ ทั้ง 3 ที่เรามักใช้กันเป็นประจำอย่าง MACD, RSI และ ROC ต่างแสดงรูปแบบไดเวอร์เจนต์ของขาลงไปในทิศทางเดียวกันหมดมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมในช่วงที่กราฟยังปรับตัวขึ้นอยู่ สัญญาณเหล่านี้กำลังพยายามบอกกับนักลงทุนว่าขาขึ้นของกราฟนี้ไม่อาจทรงตัวได้นาน
หากว่ากราฟสร้างรูปแบบหัวไหล่ของขาลงได้สำเร็จ ตลาดหมีจะต้องทำให้ราคาสามารถลงมาถึง 6.8 หยวนให้ได้ก่อน นอกจากจะพิจารณาให้เป็นรูปแบบหัวไหล่แล้วเรายังมองว่าตอนนี้กราฟกำลังทำรูปแบบ double top ของขาลงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2019 อีกด้วย
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่ากราฟจะสามารถหลุดเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นระยะยาวลงมาให้ได้ก่อนจึงจะวางคำสั่งขาย
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะวางคำสั่งขายเมื่อราคากลับมาทดสอบเส้น neckline ของรูปแบบหัวไหล่หรือรอให้่ราคาสร้างจุดปิดที่อยู่ต่ำกว่าเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้น
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเข้าซื้อเพื่อเก็บกินการย่อขึ้นไปของราคาในช่วงเวลาสั้นๆ
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: 6.9880
- Stop-Loss: 6.9800
- ความเสี่ยง: 80 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:7.0200
- ผลตอบแทน: 320 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4