ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหุ้นเวลล์ฟาร์โก (NYSE:WFC) ต้องผ่านมรสุมอยู่หลายอย่างเช่นในปี 2016 ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวการถูกกล่าวหาว่าสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาและอ้างว่าเป็นบัญชีผู้ใช้งานจริงโดยมีจุดประสงค์เพื่อปลอมแปลงตัวเลขอัตราการเติบโตของบริษัท ล่าสุดพึ่งมีรายงานออกมาว่าเวลล์ฟาร์โกจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คนออกจากตำแหน่งภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้เวลล์ฟาร์โกยังสร้างความผิดหวังให้กับผู้ถือหุ้นเมื่อบริษัทมีความจำเป็นต้องลดอัตราการปันผลต่อหุ้น (EPS) ลงไปยังแดนลบในขณะที่ธนาคารอื่นๆ กลับสามารถระคองอัตราการปันผลนี้ได้อย่างไม่มีปัญหามากนัก ที่สำคัญแม้แต่ CEO ของเวลล์ฟาร์โกเองยังออกมาบอกว่าในไตรมาสที่ 3 ก็เป็นไปได้อีกที่จะต้องหั่นตัวเลขการปันผลลงอีกครั้ง
เวลล์ฟาร์โกยังต้องการเพิ่มวงเงินสำหรับการกู้ยืมอีกแม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้กำไรที่หามาหายไปจนหมดสิ้นและสร้างผลกระทบต่อการปันผลในอนาคต หากสามารถทำได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้เราจะได้เห็นรายงานผลประกอบการของเวลล์ฟาร์โกที่ติดลบและธนาคารกลางฯ จะบังคับให้บริษัทต้องลดหรือชะลอการปันผลอีกด้วย ก่อนหน้านี้เฟดเคยเข้ามาจัดการข่าวฉาวของเวลล์ฟาร์โกในปีที่แล้วและเป็นสาเหตุทำให้เราไม่ได้เห็นอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมากนักในปี 2019
แต่ถ้ามองจากพฤติกรรมราคาของหุ้นเวลล์ฟาร์โกแล้วพบว่านักลงทุนกลับมองว่านี่คือโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อก่อนที่ธนาคารจะรายงานผลประกอบในวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? หุ้นของเวลล์ฟาร์โกมีความน่าสนใจตรงไหน?
นับตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนมีนาคมหุ้นเวลล์ฟาร์โกสามารถปรับตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุด $20 และราคามีพฤติกรรมการวิ่งเช่นนี้ถึง 3 ครั้ง ถ้าการวิ่งแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเราคาดว่าราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $34 อินดิเคเตอร์บอกโมเมนตัมอย่าง RSI และ ROC ส่งสัญญาณไดเวอร์เจนต์ขาขึ้นออกมาแล้วในขณะที่อินดิเคเตอร์ MACD ก็ลงมาเจอแนวรับพอดี
หากมองจากบริเวณแนวรับทั้ง 3 ครั้งจะพบว่าหุ้นเวลล์ฟาร์โกได้สร้างรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ขึ้นมาซึ่งตอนนี้ไหล่ขวายังไม่สมบูรณ์และรอเพียงการกลับขึ้นไปยังระดับราคา $34 เท่านั้นเพื่อยืนยันรูปแบบราคา ในแง่ของจิตวิทยาการลงทุนเรามองว่านักลงทุนอาจจะอยากลองเสี่ยงดูกับหุ้นเวลล์ฟารโกว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นได้สำเร็จท่ามกลางมรสุมข่าวร้าย แต่สิ่งที่สำคัญที่เราต้องไม่ลืมว่ารอบนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ถือว่าทำการบ้านรับมือกับโควิดได้ดีและไม่ปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์ขาดสภาพคล่องอย่างเช่นในวิกฤตการเงินปี 2008
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาจะสามารถทะลุขึ้นไปได้และต้องสามารถเจาะแนวต้านขึ้นไปได้เกิน 3% หรือต้องขึ้นไปถึง $37 จากนั้นพวกเราจะรอให้ราคาย่อกลับลงมาไม่ต่ำกว่า $34 ก่อนที่จะตัดสินใจวางคำสั่งซื้อ
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง คิดคล้ายกันกับกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่นักลงทุนกลุ่มนี้ขอสัญญาณขาขึ้นเพื่อรับประกันความอุ่นใจที่ 2% (ประมาณ $36) ลงมาย่อได้ไม่ต่ำกว่า $34 เช่นกัน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งขายทันทีตอนนี้ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้สามารถยอมรับความเสี่ยงได้
ตัวอย่างการเทรด (ขาขึ้น)
- จุดเข้า: $25
- Stop-Loss: $23 (ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันพฤหัสบดี)
- ความเสี่ยง: $2
- เป้าหมายในการทำกำไร:$33 (ต่ำกว่าจุดสูงสุดของเดือนเมษายนและมิถุนายน)
- ผลตอบแทน: $8
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4
นักลงทุนห้ามพลาด
♦หุ้น Tesla (NASDAQ:TSLA) +14% ทะลุ 1,750เหรียญ ทั้งหมดเพราะ Elon Musk ไม่มีเงินจ่ายบัตรเครดิต!