ราคาทองคำช่วงเช้าทรงตัวไม่ไกลจากระดับสูงสุดครั้งใหม่ของปีนี้บริเวณ 1797.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ขึ้นไปทำไว้เมื่อวานนี้ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่างออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐโดยประธานเฟดซานฟรานซิสโก และประธานเฟดริชมอนด์ เห็นพ้องกันว่าอัตราว่างงานยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากและเฟดยังคงต้องดำเนินการเพื่อทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงอีก สะท้อนแนวโน้มเฟดจะใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายต่อไปเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง ส่งผลให้คณะทำงานของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆในการลงโทษจีน ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์เสนอให้รัฐบาลสหรัฐยกเลิกการผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ ซึ่งมีความกังวลว่าการตัดสินใจยกเลิกการผูกติดค่าเงินอาจจะส่งผลกระทบกับธนาคารของฮ่องกงและสหรัฐเท่านั้น ไม่ใช่กับธนาคารของจีนและข้อเสนอดังกล่าวยังไม่มีการขยายผลไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของทำเนียบขาวซึ่งบ่งชี้ว่าประเด็นดังกล่าวยังไม่ได้มีการผลักดันอย่างจริงจังในขณะนี้
อย่างไรก็ดีความพยายามของสหรัฐในการหามาตรการลงโทษจีน กรณีจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงนั้นสะท้อนความขัดแย้งทางด้านการเมืองระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำ
แนวโน้ม Gold Spot:หากระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,778ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือบริเวณ 1,798 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้(ระดับสูงสุดในรอบกว่า 8ปี )การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปโซน 1,803ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดเดือนพ.ย. 2011)แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำ SPOT XAU/USD
ดูความเคลื่อนไหวราคาทองคำ Gold Spot ล่าสุดได้ที่
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา>> สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด
https://th.investing.com/commodities/gold
กลยุทธ์การลงทุน: การเปิดสถานะซื้ออาจใช้บริเวณแนวรับ 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์(จุดตัดขาดทุนสถานะซื้อ) ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,798-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อน
บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION