ได้แรงหนุนจากราคาสัตว์บกในประเทศฟื้นตัวแบบ V-Shape TFG มีสัดส่วนรายได้ ณ สิ้น 1Q63 จากธุรกิจไก่มากที่สุดที่ 57% รองลงมาเป็นหมูที่ 26% และเป็นธุรกิจอาหารสัตว์อีก 16% ราคาหมูและไก่ในประเทศฟื้นตัวค่อนข้างเร็วหลังจากมีการคลาย Lockdown ในประเทศ ทำให้ราคาหมูหน้าฟาร์มฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ราว 61 บาท/ก.ก. ในช่วงกลางเดือน เม.ย. มา อยู่ที่ 72 บาท/ก.ก. ในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 18% ขณะที่ราคาไก่หน้าฟาร์มในประเทศฟื้นตัวจาก 28 บาท/ ก.ก.ในช่วงกลางเดือน เม.ย. มาอยู่ที่ 35 บาท/ก.ก.ในปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้น 25%
ขณะที่ ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (BK:TFG)มีการปรับเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2562 เน้นการขายเฉพาะช่องทางที่มีกำไรสูง และเน้นขายหมูชำแหละมากขึ้นซึ่งได้ราคาดีกว่าหมูมีชีวิต ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวสูงกว่า 10% ได้ และมีหมูเวียดนามสัดส่วนรายได้ราว 10% ของรายได้จากหมูทั้งหมด ช่วยหนุนการเติบโตเพราะราคาหมูใน เวียดนามทำระดับสูงสุดใหม่ใน 2Q63 ส่วนไก่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นตามลำดับหลังได้อนุมัติการส่งออกจาก จีนเพิ่มอีก 1 ฟาร์มตั้งแต่ 4Q62 แต่การส่งออกยังมีสัดส่วนน้อยกว่า CPF และ GFPT โดยมีสัดส่วนที่ราว 30% ของรายได้จากไก่ทั้งหมด และยังต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้ากากถั่วเหลือง จึงเป็นผู้ประกอบการกลุ่มอาหารที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่เล็กน้อย
คาด 2Q63 ดีขึ้น QoQ ทรงตัว YoY ปรับประมาณการกำไรขึ้น
จากเหตุผลข้างต้นเราคาดกำไรปกติ 2Q63 ของ TFG ที่ 485 ลบ.+/- เติบโต 20.6% QoQ แต่ชะลอลง เล็กน้อย 7.9% YoY จากฐานที่สูง ซึ่งจะส่งผลให้กำไรปกติ 1H63 คิดเป็นสัดส่วนถึง 59% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปีเดิมของเราที่ 1,508 ลบ.
อย่างไรก็ตามกำไร 2H63 อาจชะลอลง HoH เพราะมี Low season ใน 4Q63 เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2563 ขึ้นเล็กน้อยที่ 5.7% เป็น 1,594 ลบ. (+7.7% YoY) โดยการปรับ GPM ขึ้น 20bps เป็น 12.8% และปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ขึ้น 9.4% เป็น 1,865 ลบ. (+17.0% YoY) โดยปรับ GPM ขึ้น 50bps เป็น 14% เพราะยังคงสมมติฐานราคาหมูใน ประเทศที่ 70 บาท/ก.ก. แต่ปรับสมมติฐานราคาไก่สูงขึ้น 2.5% YoY หากไม่มีการระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 จนต้องมีการ Lockdown อีกครั้ง คาดว่าราคาเนื้อสัตว์บกทั้งหมูและไก่จะปรับขึ้นต่อเนื่อง เพราะ 1) การขาดแคลนหมูในเวียดนามทำให้ต้องมีการนำเข้าหมูจากไทย 2) ราคาหมูเวียดนามยังทรงตัว สูง 3) การระบาดของ COVID-19 ในโรงงานแปรรูปหมู ไก่ ในบราซิล สหรัฐฯ และเยอรมัน และความ กังวลการบริโภคปลาดิบ ทำให้การส่งออกไก่ของไทยไปจีน และญี่ปุ่นเร่งตัวขึ้น
ปรับประมาณการ และราคาเป้าหมายขึ้น
คงคำแนะนำ TRADING ผลของการปรับประมาณการขึ้นทำให้ EPS ปี 2563 – 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 0.28 บาท และ 0.33 บาท ตามลำดับ และปรับเพิ่ม PER ในการประเมินมูลค่าเป็น 17x จาก 16x จากมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้ม อุตสาหกรรมได้ราคาเป้าหมายสิ้น 2Q64 ที่ 5.25 บาท แต่ราคาตลาดปรับขึ้นนับตั้งแต่เราแนะนำในบทวิเคราะห์กลุ่มอาหารเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่ามีโอกาสปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้นที่ราคาปิดวานนี้ขึ้นมาแล้ว 19% และไปทำราคาสูงสุดถึง 5.65 บาท ทำให้เหลือ Upside gain เพียง 6.7% จึงคง คำแนะนำ TRADING หากมีสถานะเป็นจังหวะ Lock-in-profit เชิงกลยุทธ์ที่ระดับ 4.70 บาท+/- จึงเป็นจุดพิจารณาสะสมรอบใหม่
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities