มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในช่วงตลาดลงทุนสหรัฐฯ ยังเปิดอยู่เมื่อคืนนี้ โดนัลด์ ทรัมป์และทีมงานจากทำเนียบขาวได้ออกมาแถลงการณ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและพยายามเอาใจตลาดหุ้นเป็นอย่างมากแม้ว่าตอนนี้ตลาดหุ้นจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอยู่แล้วและก็ไม่ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญแต่ทรัมป์ก็ยังอัดความเชื่อมั่นเพิ่มให้กับตลาดอีก เป็นไปได้ว่าขาขึ้นของตลาดหุ้นคือสิ่งเดียวที่สามารถวัดความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานของเขา (ในความคิดของทรัมป์) ก็เป็นได้ ทรัมป์ได้ออกมาย้ำว่าการค้าขายระหว่างสหรัฐฯ - จีนยังคงดีอยู่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก $1,000,000 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมแพคเกจช่วยเหลือต่างๆ กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว
เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ไม่ได้มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญประกาศออกมาดังนั้นทิศทางการวิ่งของราคาในตลาดจึงเป็นไปตามพาดหัวข่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ อย่างเช่นการออกมาสื่อสารแบบผิดๆ จากที่ปรึกษาทางด้านการค้าของสหรัฐฯ เมื่อวันก่อนที่ทำให้ตลาดหุ้นและฟอเร็กซ์ผันผวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ
ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแต่สกุลเงินกลับอ่อนมูลค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ กราฟ ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการจาก Markit จะดีขึ้นแต่ยังไม่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้ แม้รายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่จะกลับมาแต่ก็ยังไม่มีนัยสำคัญมากพอที่จะช่วยพาสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อดอลลาร์ร่วงลงหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์ก็คือราคาที่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปีได้เป็นที่เรียบร้อย พฤติกรรมราคาในตลาดเช่นนี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ทำเนียบขาวออกมาพูดเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนและยังรวมถึงความเชื่อที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยเหลือกลุ่มคนที่ไม่ใช่นายทุนได้
ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนที่สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์จาก 31.9 เป็น 47.5 ได้ส่งผลให้กราฟ ขึ้นยืนเหนือระดับราคา 1.13 ได้สำเร็จ จากรายงานระบุว่าภาคการผลิตและบริการของประเทศเยอรมันทั่วทั้งประเทศตลอดเดือนมิถุนายนดีขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนและทั่วโลก ทั้งนี้รัฐบาลเยอรมันได้ออกมาย้ำว่าไม่ต้องการเห็นเศรษฐกิจในยูโรโซนพังเป็นรอบที่ 2 อีก สกุลเงินถือว่าเอาตัวรอดไปได้อย่างฉิวเฉียดเพราะตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 50 เป็น 50.1 เท่านั้น นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันอนุญาตให้มีการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมลงโดยลดระยะห่างทางสังคมลงจาก 2 เมตรเป็น 1 เมตรและอนุญาตให้ครอบครัวหนึ่งไปมาหาสู่อีกครอบครัวหนึ่งได้ ภาคการท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักรใกล้จะได้กลับมาอย่างเต็มตัวแล้วซึ่งรวมไปถึง ผับ โรงภาพยนตร์ ห้องสมุดและหอศิลป์
สกุลเงินแคนาดา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ได้รับข่าวดีจากการออกมาแก้ข่าวของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนและรายงานตัวเลขดัชนี PMI จากธนาคาร Commonwealth ที่ออกมาดีขึ้น ส่วนสกุลเงินไม่ได้ขึ้นไปไหนไกลมากนักเพราะเรื่องภาษี 10% การนำเข้าแร่อลูมิเนียมที่แคนาดายกมากดดันสหรัฐฯ ยังไม่มีความคืบหน้า
เป็นไปตามคาดเมื่อธนาคารกลางแห่งนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิม ในแง่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจขิงนิวซีแลนด์ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะรัฐบาลได้สั่งให้จบการเว้นระยะห่างทางสังคมไปตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อนแล้ว ยอดตัวเลขการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตเฉพาะเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวเพิ่มสูงขึ้น 54% แต่หากดูที่ตัวเลขยอดรวมการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตทั้งหมดพบว่าเพิ่มขึ้น 80% เราหวังว่าหลังจากนี้จะได้เห็นตัวเลขยอดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ตารางข้อมูลด้านล่างแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์สามารถฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญมากเพียงใดเมื่อเทียบกันระหว่างเดือนพฤษภาคมและก่อนหน้านั้นยกตัวอย่างเช่นตัวเลข GDP และยอดขายปลีก แม้ตัวเลขดัชนี PMI ภาคธุรกิจในเดือนพฤษภาคมจะยังน้อยกว่าของเดือนมีนาคมแต่ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากเดือนเมษายน เท่ากับว่าโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยของนิวซีแลนด์จะติดลบยิ่งน้อยลงไปอีก ถึงกระนั้นผู้ว่าการแบงก์ชาตินายอาเดรียน ออร์ดูเป็นกังวลเมื่อพูดถึงการแข็งค่าของสกุลเงินที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกจึงทำให้กราฟ NZDUSD ยังไม่สามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 0.6580 ได้