รับข้อมูลพรีเมียมสำหรับมหกรรมลดราคา Cyber Monday: ลดสูงสุด 55% InvestingProรับส่วนลด

ทำไมหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยถึงปรับตัวขึ้นสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจ

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 30/06/2563 15:04
HD
-
SPG
-
LOW
-
COOP
-
INVH
-

ฟังดูแล้วขัดๆ เมื่อได้ยินว่าหุ้นของกลุ่มที่อยู่อาศัยในตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่คนยังตกงานเป็นล้านและมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เรื่องราคาที่อยู่อาศัยแพงขึ้นไม่ใช่เรื่องเดียวที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกประหลาดใจ ยังมีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่สำหรับเรื่องราคาที่อยู่อาศัยขึ้นสวนทางกับอัตราการว่างงานในตอนนี้เราจะมาหาคำตอบกัน

1. อัตราดอกเบี้ยต่ำ

อ้างอิงข้อมูลจากดัชนีองค์กรส่งเริมสภาพคล่องจากการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (MBA) พบว่ามีผู้ที่ยื่นขอสัญญากู้ใหม่เพิ่มขึ้น 9 สัปดาห์ติดต่อกันซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมและเกือบจะสร้างสถิติใหม่ในรอบ 12 ปีแล้ว

รายงานจากบลูมเบิร์กระบุว่าราคาสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยไม่เคยได้รับความนิยมมากขนาดนี้มาตั้งแต่ปี 2013 เฉพาะเดือนมกราคมมาจนถึงเดือนมีนาคมพบว่าค่าเฉลี่ยต่อการกู้ยืมอยู่ที่ 61 จุดเบสิส ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2008

บริษัท Mr. Cooper Group (NASDAQ:COOP) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการค้าขายที่อยู่อาศัยเผยว่านักลงทุนที่แห่เข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัยสำหรับไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 3% มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วมากถึง 3 เท่าCOOP Weekly TTM

ปัจจุบันหุ้นของบริษัท Mr. Cooper Group มีราคาปิดอยู่ที่ $12.33 เคยสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $14.68 ฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุด $4.30 ได้เมื่อช่วงเดือนมีนาคม เหตุผลเดียวที่สามารถอธิบายสาเหตุของปรากฎการณ์นี้ได้ดีที่สุดคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จนมีตัวเลขเกือบแตะ 0% เมื่อค่าเฉลี่ยการจำนองอายุ 30 ปีลดลงมาเหลือ 3.2% ทำให้ผู้ที่กู้ยืมบางคนต้องการรีไฟแนนซ์ใหม่ในขณะที่บางคนมองว่านี่คือโอกาสดีในการหาที่อยู่อาศัยราคาถูก

2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป

นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมาแล้วยังมีอีกปัจจัยที่น่าสนใจเข้ามาทำให้ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่ม อย่างที่ทราบกันว่าวิธีการป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้ได้ผลดีที่สุดคือต้องห้ามไม่ให้มีการรวมตัวกันเกิดขึ้น รูปแบบการทำงานในออฟฟิศจึงถูกบังคับให้เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน จากเดิมที่ต้องตื่นแต่เช้า เข้าเมืองเพื่อไปทำงาน ตอนนี้หลายๆ บริษัทพบว่าการให้พนักงานทำงานอยู่แต่ที่บ้านก็สามารถให้ผลัพธ์การเท่างานที่เท่ากันได้หรืออาจจะดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ รายงานจากมอร์แกน สแตนลีย์เผยว่าบางครอบครัวถึงกับเริ่มวางแผนขยายขอบครัวเดี่ยวให้กลายเป็นครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว

ในรายงานของมอร์แกนแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นของ Invitation Homes (NYSE:INVH) บริษัทผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการให้สัญญาเช่าที่อยู่อาศัย ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทพบว่าอัตราการเช่าบ้านในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นมากกว่า 95% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของบริษัท เวลาตัดสินใจของผู้ที่ต้องการเช่าก็ลดลง 2% ในเดือนนั้นเช่นกันINVH Weekly TTM

ล่าสุดหุ้นของ Invitation Homes ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 62% ในช่วงเวลา 3 เดือนล่าสุดและมีราคาปิดปัจจุบันอยู่ที่ $27.09

หุ้นอีก 1 ตัวที่น่าสนใจในกลุ่มที่อยู่อาศัยคือบริษัท Lowe’s (NYSE:LOW) ผู้รับงานปรับปรุงบ้านที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงมาพบว่าความต้องการต่อเติมบ้านของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากกว่าการต่อเติมออฟฟิศอย่างมีนัยสำคัญLOW Daily

หุ้นของ Lowe’s ปรับตัวขึ้นมากกว่าเดิม 2 เท่าในระยะเวลา 3 สัปดาห์ล่าสุดซึ่งตอนนี้หุ้นมีราคาปิดอยู่ที่ $133.52

แต่ก็ไม่ใช่ว่าท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตอย่างนี้จะมีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ บริษัท ร้านอาหาร สำนักงานที่ได้รับความเสียหายจากโควิด-19 ก็มีเยอะอยู่ ในขณะเดียวกันหลายๆ บริษัทพบว่าการให้พนักงานทำงานจากที่บ้านสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย การเดินทางลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

SPG Weekly TTM

Simon Property Group (NYSE:SPG) หนึ่งในบริษัทที่เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ในอเมริการ่วงลงมากกว่า 60% ในปีนี้เพราะหลายๆ บริษัทที่มาขอเช่าพื้นที่อยู่ในห้างไม่สามารถจ่ายค่าเช่าต่อไปได้ บางบริษัทถึงกับยื่นล้มละลายไปเลย

นาย Carl Icahn นักลงทุนชื่อดังระดับพันล้านได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ตอนนี้พอร์ตการเทรดของผมเต็มไปด้วยคำสั่งขายหุ้นบริษัทที่โฆษณาเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ คุณต้องรู้ว่าหุ้นตัวไหนควรถือในจังหวะที่ไม่มีใครเห็นค่าของมัน”

โดยสรุปแล้ว

อัตราดอกเบี้ยต่ำและพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการทำงานที่เปลี่ยนไปคือปัจจัยหลักที่ทำให้หุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น ผู้ที่ได้ประโยชน์คือบริษัทที่ทำเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยโดยตรงหรือขายสินค้าตกแต่งบ้านเช่น Lowe’s, Home Depot (NYSE:HD) เป็นต้น

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย