เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ออกหมัดชุดใหญ่ รับมือ COVID
ช่วงนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) เป็นข่าวเยาะนะครับ
กล่าวคือ
17/6/2563: มีข่าวออกมาก่อนการประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย
ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ระยะที่ 2โดยสรุปคือ
-ปรับลดเพดานดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป ร้อยละ 2 - 4 ต่อปี
-เพิ่มวงเงินบัตรเครดิต,สินเชื่อส่วนบุคคล
-ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
19/6/2563 หลังตลาดหุ้นปิด: BOT ประกาศ “ขอให้” ธนาคารพานิชย์
งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี2563 รวมถึงงดการซื้อหุ้นคืน
คราวนี้เรามาดูผลกระทบที่ผมคาดว่าจะเกิดขึ้นกันบ้าง
>>หุ้นแบงค์เตรียมรับแรงขายแม้ผมจะเชื่อว่าที่ BOT ออกมาตรการชุดนี้จากเจตนาที่ดีและผ่านการวางแผนมาอย่างดีแล้ว
แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่า มาตรการชุดนี้ส่งผลทางลบต่อราคาหุ้นของกลุ่ม
ธนาคารพอสมควรทีเดียว เช่น
-การลดเพดานดอกเบี้ยฝั่งที่เป็นรายได้ของธนาคาร ย่อมมีผลกระทบกับรายได้
-มันก็จริงอยู่ครับว่าธนาคารพาณิชย์นั้นขึ้นอยู่ในกำกับของBOT
แต่เราก็ต้องยอมรับว่าธนาคารพาณิชย์แทบทุกแห่งก็ขึ้นอยู่ในกำกับของ
ตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย การที่ BOT ไปเปลี่ยนการจ่ายเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์
จะทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องกระทำการที่ผิดกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ให้ไว้
กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งแน่นอนครับว่านักลงทุนจะไม่ชอบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งถือหุ้นธนาคารพาณิชย์ไทยอยู่มากมาย -คนที่ซื้อหุ้นแบงค์เพราะเงินปันผลสูงนั้นต้องคิดอีกทีแล้วล่ะครับ เพราะมันปันผลไม่ได้
หลายคนอาจจะมองไปว่าไม่มีปันผลระหว่างกาล รอไปรอบหน้าก็จะมีการปันผลประจำปี แต่เรื่องเดิมก็จะกลับมาอีกว่า ใครจะไปรู้ว่า BOT จะประกาศห้ามปันผลประจำปีครั้งหน้าหรือเปล่า
>>COVID-19 สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจมากและยาวนานกว่าที่หลายคนคิด
จากมาตรการชุดใหญ่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมานั้น อาจวิเคราะห์ได้ว่า BOT เชื่อว่าวิกฤตโควิดจะนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจที่กระทบประชาชนตั้งแต่ระดับกลางลงมา อย่างรุนแรงและยาวนานนะครับ ถ้ามองจากข้อความที่ ธปท.ได้พยายามสื่อ ปัญหาเศรษฐกิจอาจจะอยู่กับเรายาวนานถึง 3 ปีนับจากนี้
>>24 มิ.ย.2563 การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่จะงงๆ เป็นพิเศษ
ในวันที่ 24 มิ.ย.2563 กนง.จะมีการประชุมกันเรื่องดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันจะเป็นครั้งที่งงๆ กว่าการประชุม กนง. ครั้งก่อนๆนะครับ
กล่าวคือโดยปกติแล้วถ้ามีการ “ลดดอกเบี้ยนโยบาย” จะถือเป็นข่าวร้ายของ
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ครับ แต่มันจะยกเว้นในการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากว่าดอกเบี้ย
ส่วนที่เป็นรายรับหลายตัว ของธนาคารพาณิชย์นั้นถูกประกาศปรับลดเพดานลงมาแล้ว
หากมีการลดดอกเบี้ยนโยบายจะเปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินฝาก
ซึ่งเป็นดอกเบี้ยส่วนที่เป็นรายจ่ายของพวกเขาได้
ดังนั้นในการประชุม กนง.ครั้งนี้ ถ้ามีการประกาศลดดอกเบี้ยนโยบาย
อาจจะกลายเป็นข่าวดีสำหรับธนาคารพาณิชย์แทนที่จะเป็นข่าวร้ายครับ
>>New normal ของแบงค์ชาติ หลายๆชาติ
ถึงแม้ว่ามาตรการที่แบงค์ชาติสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายปันผลระหว่างกาลและ
งดการซื้อหุ้นคืนนั้นจะดูเหมือนเป็นการ “ล้ำเส้น” แต่ในความเป็นจริงแล้ว
แบงค์ชาติของหลายประเทศในฝั่งยุโรปก็ใช้มาตรการนี้กันแล้ว
เช่น ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ประกาศมาตรการลักษณะนี้ในวันที่ 27/3/2020
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นทำให้ ธนาคาร Deutsche Bank ของเยอรมัน และ BNP Paribas ของฝรั่งเศษ มีราคาปรับตัวลง 6 วันติดต่อกัน แต่หลังจากนั้นก็กลับมาขึ้นได้นะครับ
ดังนั้น สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้ การปรับตัวลงของกลุ่มธนาคาร อาจเล่นได้ครับ
>>BOT น่าจะมีการแถลงหรือให้ข่าว เพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อราคาหุ้น
ผมเชื่อว่าท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.วิรไท สันติประภพ มีความเข้าใจ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นอย่างดีครับ การที่ท่านออกมาตรการที่เป็นผลกระทบทางด้านลบกับราคาหุ้นมานั้น ท่านอาจจะเตรียมให้ข่าวหรือแถลงข่าว เพื่อลดผลกระทบทางลบดังกล่าวภายในวันที่ 22-23 มิ.ย.2563 นี้นะครับ
ดังนั้น ถ้าวันจันทร์ที่ 22 หลังตลาดครึ่งเช้า หากใครเล่นฝั่งลง ในหุ้นของธนาคารพาณิชย์ก็ต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย
>> หุ้นธนาคารพาณิชย์ในระยะกลางเป็นต้นไปนั้นยังดีอยู่ครับ
แม้หลายมาตรการที่ BOT ออกมาในช่วงนี้ จะทำให้ราคาของหุ้นธนาคารพาณิชย์
ขยับตัวลง แต่ในระยะกลางต้องนับว่ามาตรการเหล่านี้จะส่งเสริมฐานะทางการเงิน
ของธนาคารพาณิชย์ให้เข้มแข็งขึ้นครับ
ดั้งนั้น หุ้นธนาคารพาณิชย์ในระยะกลางเป็นต้นไปนั้นยังดีอยู่ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารที่สามารถหารายได้อื่นนอกจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมตามปกติ
คำแนะนำของเรา
ในช่วงนี้หุ้นธนาคารพาณิชย์ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน โดยหลักแล้วเราจะได้เห็นการปรับตัวลงของราคาในระยะสั้นๆ แต่จะเปิดโอกาสการลงทุนในระยะกลางถึงยาวได้อยู่ครับ
เรายังคงแนะนำการลงทุนโดยการใช้แนวรับและแนวต้าน หลังจากราคาปรับตัวลงในครึ่งเช้าของวันจันทร์
อนึ่ง
เรายังคงมองว่าการลงทุนในหุ้นธนาคารหรือหุ้นใดๆ ยังไม่เหมาะกับผู้ที่ Stoploss ไม่ได้ครับ
เพิ่มเติม***
-ตัวเลข NPL ในขณะนี้จะไม่ถูกต้องนะครับตัวเลขหนี้เสีย (NPL) ที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น ไม่ได้เป็นตัวเลขที่บอก NPL ตามปกตินะครับเพราะที่เราเห็นนั้นเป็นตัวเลข NPL ที่เกิดจากมาตรการการช่วยเหลือระยะแรกไปแล้ว
หรือพูดสั้นๆก็คือตัวเลขหนี้เสียมันน้อยกว่าความเป็นจริง เพราะเรามีมาตรการช่วยเหลือนั้นเอง
-ในบทความ “โควิตไม่ยอมไป แล้วจะเล่นหุ้นอะไรกันดี” ที่เราได้ให้ไว้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2563 เราได้บอกเอาไว้ว่าช่วงหลังการประกาศงบไตรมาสที่ 1 นั้น หุ้นธนาคารจะไม่ดี
(แต่เรามองว่าไม่ดีถึงแค่ สิ้นเดือน มิ.ย.2020 ครับ)
http://www.investorclub.guru/2020/04/blog-post.html
https://www.facebook.com/PandaInvestorTH/posts/2603950393215119
By Panda Investor
21/06/2020
https://www.facebook.com/PandaInvestorTH/posts/2666850176925140