รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้น Microsoft ยังน่าซื้ออยู่ไหมหลังจากอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นมานาน

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 16/06/2563 17:49

ที่ผ่านมาหุ้นของบริษัทผู้สร้างระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ชื่อดังของโลกอย่างบริษัทไมโครซอฟท์ (NASDAQ:MSFT) ทำผลงานได้ดีมาตลอดทั้งปี 2020 หลังจากนักลงทุนได้เห็นตัวเลขยอดขายเติบโต พวกเขาก็ได้เข้ามาซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์มากขึ้นในไตรมาสที่ 1 ยิ่งเป็นการเพิ่มความคาดหวังในตัวบริษัทเข้ามาอีกในปีนี้MSFT Weekly 2017-2020

ปัจจุบันหุ้นของบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง $1,400,000 ล้านเหรียญสหรัฐปรับตัวขึ้นมาแล้ว 19% ตลอดทั้งปี 2020 มอบเงินปันผลคืนแก่นักลงทุนในปี 2019 ประมาณ 60% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $188.94 ลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $198.52 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลังจากที่ตลาดได้เห็นขาขึ้นอันทรงพลังของไมโครซอฟท์ก็เกิดคำถามสำคัญตามมาเช่น “หุ้นไมโครซอฟท์ในตอนนี้ยังน่าซื้อยู่หรือไม่?” “หลังจากโลกผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปแล้วคนจะเลิกสนใจหุ้นไมโครซอฟท์แล้วหรือเปล่า?” ผู้จัดการกองทุนชื่อดังหลายแห่งเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการฟื้นตัวแบบ V-Shape ที่นับวันเริ่มริบหรี่ท่ามกลางความเป็นไปได้ของการแพร่ระบาดรอบที่ 2 เพิ่มสูงขึ้น

มีความเป็นไปได้ว่าหุ้นไมโครซอฟท์อาจปรับตัวลดลง 10-15% หากว่านักลงทุนในตลาดเริ่มมีความกังวลมากขึ้น พวกเขาอาจปิดคำสั่งซื้อจากหุ้นไมโครซอฟท์ไปก่อนและหันไปสนใจสถานการณ์การแพร่ระบาดในรอบที่ 2 แทน ยิ่งไปกว่านั้นไมโครซอฟท์ยังมีคู่แข่งที่น่าสนใจอย่างบริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Redmond ซึ่งในแง่ของหุ้นถือว่าค่อนข้างปลอดภัยสำหรับการลงทุนระยะยาวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หากว่าตลาดหุ้นต้องร่วงลงอีกครั้งเพราะการกลับมาของโควิด ราคาหุ้นของ Redmond จะน่าสนใจกว่าไมโครซอฟท์มากเพราะมีราคาที่ถูกกว่า

เลือกคนที่ใช่ให้ถูกกับงาน

เหตุผลที่จะใช้เพื่อคิดเข้าข้างการซื้อหุ้นไมโครซอฟท์นั้นง่ายมาก ตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมาไมโครซอฟท์เลือกเดินในเส้นทางที่ถูกต้องมาตลอดจนทำให้ตอนนี้หุ้นไมโครซอฟท์กลายเป็นเหมืองแห่งความมั่งคั่งสำหรับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นไมโครซอฟท์มาก่อนหน้านี้

แม้ในขณะที่ไมโครซอฟท์ดูเหมือนว่าจะพลาดท่า ไล่ตามความเปลี่ยนแปลงของบริษัทรุ่นใหม่ไม่ทัน ไมโครซอฟท์กลับสามารถเลือกแม่ทัพคนใหม่นายสัตยา นาเดลลามาดำรงตำแหน่ง CEO ได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วไมโครซอฟท์ก็สามารถกลับเข้ามาอยู่ในลู่วิ่งได้อีกครั้งด้วยการเปลี่ยนทิศทางการบริหารไปเป็นการลงทุนในระบบคลาวด์จนทำให้บริษัทสามารถกลับมามีการเติบโตที่รวดเร็วขึ้นจนสามารถแย่งตลาดร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

ตั้งแต่การเข้ามารับตำแหน่ง CEO ในปี 2014 ของนายสัตยาเขาก็เริ่มผ่าตัดรูปแบบการทำกำไรแบบเดิมๆ ของบริษัทซึ่งก็คือการขายระบบปฏิบัติการวินโดว์ (Windows) และซอฟท์แวร์สำหรับการทำงาน (Office) ไมโครซอฟท์ในยุคของสัตยาลงทุนไปเยอะมากกับการทำศูนย์กลางข้อมูลและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อช่วยให้การให้บริษัทสามารถเข้าใกล้ผู้บริโภคผ่านแอปพลิเคชันและร้านค้าของไมโครซอฟท์ได้ง่ายขึ้น สิ่งที่พิสูจน์ว่าวิสัยทัศน์ของสัตยานั้นถูกต้องคือตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ชี้ให้เห็นว่าไมโครซอฟท์มีกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า

การเข้ามาของไวรัสโคโรนาในปี 2020 สร้างความตกใจและชะงักงันให้กับระบบเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างมหาศาล หลายๆ บริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือไอทีจำเป็นต้องตัดงบประมาณบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเพื่อรับมือกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจแต่ดูเหมือนว่ากลับมีแต่ไมโครซอฟท์ที่สามารถยืนหยัดและทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงไตรมาส 1 ที่การแพร่ระบาดรอบแรกยังรุนแรงพบว่าการใช้บริการระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์เพิ่มมากขึ้นตามมาตรการภาครัฐที่รัดกุม ความต้องการในผลิตภัณฑ์เกือบทุกอย่างเช่นระบบคลาวด์ การสื่อสาร CRM และซอฟท์แวร์ที่เอื้อให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ยิ่งเร็วยิ่งเสี่ยง

แม้ว่าโดยปัจจัยพื้นฐานไมโครซอฟท์จะมีความสมบูรณ์เพียบพร้อมแต่นักลงทุนบางคนก็มีความกังวลว่าหุ้นไมโครซอฟท์นั้นเติบโตเร็วเกินไปหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ที่ไวรัสโควิด-19 มีโอกาสแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2 ในสหรัฐอเมริกา ถึงกระนั้น CEO ของไมโครซอฟท์ยังคงเชื่อมั่นและมองเห็นอนาคตการเติบโตขึ้นของบริษัทผ่านโน๊ตของเขาในเดือนเมษายนหลังจากรายงานผลประกอบการว่า

“เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลภายในระยะเวลาแค่ 2 เดือนจากเดิมที่เคยคาดการณ์กันไว้นานถึง 2 ปี ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้เราได้เห็นการทำงานร่วมกันเป็นทีมทางไกล การเรียนการสอนผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ การซื้อขายออนไลน์และการให้บริการลูกค้าผ่านระบบคลาวด์ สำหรับไมโครซอฟท์นั้นเราได้ทำงานร่วมกับลูกค้าของเราในทุกๆ วัน เราได้ช่วยพวกเขาให้สามารถสร้างบริษัทขึ้นมาจากที่ใดก็ได้และสามารถหาลูกค้าที่ต้องการจากที่ใดก็ได้ ด้วยฐานทางธุรกิจที่มั่นคง ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีคือฐานที่จะทำให้บริษัทก้าวไปสู่อนาคตที่รอเราอยู่ข้างหน้าได้”

ในแง่ของการปันผลที่ผ่านมาบริษัทไมโครซอฟท์มีประวัติการปันผลตอบแทนคืนแก่นักลงทุนที่ดีมาตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มีความมั่นคง ไมโครซอฟท์เริ่มปันผลครั้งแรกในปี 2004 และหลังจากนั้นผลตอบแทนก็เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ปัจจุบันหุ้นไมโครซอฟท์มีอัตราการปันผลรายปีอยู่ที่ 1.09% และในแต่ละไตรมาสมีการปันผลต่อหุ้นอยู่ที่ $0.51 นอกจากนี้ความสม่ำเสมอในการปันผลคือสิ่งที่สะท้อนถึงความมีเสถียรภาพของบริษัทและไมโครซอฟท์คือบริษัทที่มีสิ่งนั้น

โดยสรุปแล้ว

ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ของโควิด-19 ความเป็นไปได้ใดที่อาจส่งผลให้หุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวลง จุดนั้นคือจุดเข้าที่ดีที่ควรฉวยโอกาสเอาไว้เพราะบริษัทไมโครซอฟท์คือบริษัทยุคใหม่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร นอกจากนี้กว่า 75% ของผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ล้วนแล้วแต่ทำผ่านระบบคลาวด์ที่กำลังกลายมาเป็นพื้นฐานของโลกอนาคต ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนระยะยาวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี   

บทความห้ามพลาด

หุ้นที่เหมาะสำหรับตั้งรับการระบาดรอบที่ 2 ของโควิด-19

10 หุ้น ในดวงใจของนักลงทุน!

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย