BP บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกออกมายอมรับแล้วว่า อุตสาหกรรมน้ำมันโลกกำลังเปลี่ยนไป ได้ออกมาหั่นคาดการณ์ราคาน้ำมันจากแผนธุรกิจระยะ 30 ปีข้างหน้าลง 30% ! และมูลค่าของบริษัท BP จะหดไปถึง 1.75 หมื่นล้านเหรียญ !
อาทิตย์ที่แล้วทางเพจเพิ่งได้รายงานไปว่า BP ประกาศปลดพนักงานออก 10,000 รายหรือ 14% ของบริษัทเลยทีเดียวเพื่อเป็นการลดต้นทุนและปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ (รายละเอียดแนบไว้ให้ในคอมเม้นท์ครับ) และในวันนี้ทาง BP ก็ได้ออกมาประกาศสิ่งที่น่าใจหายอีกครั้ง
BP ปรับลดมุมมองราคาน้ำมันดิบในแผนธุรกิจระยะยาว
จากที่เคยมองว่าราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงปี 2021 ถึง 2050 นั้น ทาง BP ได้ออกมาหั่นราคาครั้งใหญ่ ปรับราคาลดลงมาเหลือ 55 เหรียญเท่านั้น โดยปกตินั้นการปรับขึ้นลงของมุมมองราคาระยะสั้นหรือราคาระหว่างปีนั้นเกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่การปรับราคาใน แผนธุรกิจระยะยาว 30 ปีนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆแน่นอน
การปรับลดราคาครั้งใหญ่และปลดพนักงานออกนั้น เรียกได้ว่าทาง BP ได้ยอมรับแล้วว่าทิศทางอุตสาหกรรมน้ำมันโลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ
(NYSE:ดูความเคลื่อนไหวหุ้น BP)
การปรับแผนธุรกิจครั้งนี้จะทำให้ทาง BP มีมูลค่าน้อยลงไป 1.75 หมื่นล้านเหรียญ
เนื่องจากว่าสินทรัพย์ (Asset) ของ BP หลักๆนั้นคือหลุมน้ำมัน การปรับลดราคาคาดการณ์ครั้งนี้หากมีการปรับมูลค่าสินทรัพย์ลงตามแผนธุรกิจไปด้วยนั้นจะทำให้บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์น้อยลงไป 1.75 หมื่นล้านเหรียญโดยทันที
ไม่ใช่ว่ามูลค่าของบริษัทจะหายไปในช่วงข้ามคืนนะครับ แค่เปรียบเทียบกับแผนธุรกิจครั้งก่อน ซึ่งตลาดนั้นจะมีมุมมองของราคาน้ำมันที่แตกต่างกันอยู่แล้วขึ้นอยู่กับการประเมินค่า (Valuation) จากนักลงทุนแต่ละคนเลย ไม่ใช่ทุกคนจะมองตามแผนของบริษัทนั้นๆ
CEO ของ BP นาย Bernard Looney ก็ได้ออกมาประกาศสิ่งที่น่าสนใจอีกครั้ง
"BP จะหันไปเน้นการลงทุนในพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนต่างๆมากขึ้น โดยเราตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 30 ปีข้างหน้านี้เราจะต้องไม่ปล่อยมลพิษก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เลย กลายเป็น Zero-Emissions Company เรากำลังดำเนินการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของบริษัทเราครั้งใหญ่" Looney กล่าว
ไม่ใช่แค่ BP (NYSE:BP) แต่บริษัทน้ำมันชั้นนำต่างๆของโลกก็กำลังทำการเปลี่ยนแผนธุรกิจครั้งใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น Shell และ Chevron อีกสองบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ TOP 5 ของโลกก็มีข่าวที่จะลดจำนวนพนักงานและเปลี่ยนโครงสร้างครั้งใหญ่มาเป็นพลังงานทดแทนเช่นเดียวกัน และเหตุผลหลักๆนั้นจะเป็นเพราะว่าอะไรไปไม่ได้นอกจาก...
#Tesla (NASDAQ:TSLA) และ #Elon #Musk ครับ
อย่างที่เราได้เขียนมาตลอดว่าบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกนั้นแทบจะไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงได้เร็วอย่างนี้
ย้อนกลับไป 10 ปีก่อนตั้งแต่เกิด Shale Oil Boom หรือการค้นพบเทคโนโลยีของการลดต้นทุนน้ำมันเชลล์ออยในสหรัฐครั้งใหญ่ บริษัทน้ำมันเหล่านี้กลับเชื่อสนิทใจว่าเราจะได้ใช้น้ำมันไปอีกนานและยาวแน่ๆ เพราะเรากำลังมีอุปทานอย่างเหลือล้น
แต่เนื่องจากกระแสพลังงานสะอาดและการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆทุกวัน และยังมีบริษัท Tesla ที่ตั้งใจเข้ามา Disrupt จากใช้พลังงานน้ำมันครั้งใหญ่เข้ามาอีกทำให้เวลาที่ไม่คาดคิดนั้นอาจขยับขึ้นมาเร็วขึ้น
ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ Tesla คิดค้นได้นั้นเรียกว่านำหน้าสิ่งที่บริษัทน้ำมันเหล่านี้คาดการณ์ไว้หลายเท่านัก จนทำให้บริษัทน้ำมันต่างๆต้องยอมรับแล้วว่า คงหนีไม่ได้ที่จะยอมรับความจริงว่าเราคงจะไม่ได้ใช้น้ำมันจนหมดโลกเรา
แต่มนุษย์คงจะต้องหยุดใช้น้ำมันก่อนที่น้ำมันจะหมดโลก อย่างคำพูดที่ว่า
"The Stone Age didn't end for lack of stone, and the oil age will end long before the world runs out of oil."
หรือยุคหินไม่ได้จบลงเพราะหินหมดไป และยุคน้ำมันก็กำลังจะเป็นเช่นนั้นเพราะมีเทคโนโลยีอื่นๆที่กำลังเข้ามาแทนที่
ท่านใดสนใจบทความของเราเรื่อง "เปิดโปงแผน Disruption ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ที่อธิบายถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ของ Elon Musk ที่จะเข้ามากลืนตลาดของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ลองอ่านดูได้ในคอมเม้นท์ที่เราแนบไว้ให้นะครับ บทความนี้ได้รับความสนใจเยอะและรับรองว่าน่าสนใจมากๆ
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP
........
บทความห้ามพลาด
BP ต้องปลดพนักงานออก 10,000 ชีวิต! การปรับโครงสร้างครั้งนี้ชี้ชัดว่า...