การล็อกดาวน์ตลอดทั้งเดือนเมษายนเพื่อลดจำนวนการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรหดตัว 20.4% ซึ่งถือเป็นตัวเลขการหดตัวรายเดือนที่หนักที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมา หากถามว่าร้ายแรงแค่ไหน? เราตอบได้ว่าร้ายแรงยิ่งกว่าช่วงเศรษฐกิจหดตัวในปี 2008-2009 3 เท่าและตัวเลข GDP รายเดือนในช่วงนั้นไม่เคยขึ้นมาเกิน 1% เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ของสหราชขอาณาจักรจะดีขึ้น มีการคลายมาตรการล็อกดาวน์ไปแล้วบางจุดและนักลงทุนคิดว่าตลาดหุ้นของอังกฤษก็ได้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดมาแล้วเช่นเดียวกับสหรัฐฯ แต่หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก EY นาย มาร์ก เกรย์กอรี่ได้ออกบอกความเป็นจริงทางเศรษฐศาสตร์ว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในปีนี้จะหดตัว 8% และคิดว่าจะยังไม่ฟื้นจนกว่าจะถึงปี 2023
ดังนั้นเราจึงมองว่าขาขึ้นของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรต่อจากนี้คงจะเป็นขาขึ้นที่ยากลำบาก เพราะนอกจากปัญหาโควิด-19 แล้วพวกเขายังต้องหาทางแก้ปัญหาข้อตกลงที่เหลือของ Brexit อีก สกุลเงินปอนด์ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันซึ่งถือว่าเป็นขาลงยาวที่สุดในเดือนนี้ เมื่อพิจารณาด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วปรากฎว่าทั้งปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคมีความเห็นตรงกันคือขาลงของสกุลเงินปอนด์จะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้
จากรูปประกอบในกราฟรายวันจะเห็นว่า GBP/USD กำลังกำลังสร้างรูปแบบลิ่มลู่ขึ้น (Rising Wedge) โดยปกติแล้วรูปแบบนี้จะมีลักษณะเด่นคืดจุดสูงสูดที่ยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มมียอดที่ต่ำลงในขณะที่จุดต่ำสุดที่ยกตัวสูงขึ้นจะยังคงยกตัวได้ตามปกติหรือในบางครั้งก็ยกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เหตุผลนี้สามารถอธิบายว่าทำไมกราฟถึงวิ่งในลักษณะนี้และสามารถอธิบายได้อีกว่ายอดที่ค่อยๆ ลดระดับความสูงลงหมายถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่ค่อยๆ หายไปหรือนักลงทุนที่ได้กำไรจากขาขึ้นก่อนหน้าได้ทยอยพากันออกจากตลาดไปบ้างแล้วบางส่วน
หากว่ารูปแบบลิ่มลู่ขึ้นนี้เป็นไปตามทฤษฎี กราฟ GBP/USD จะต้องเกิดการทะลุกรอบในทิศทางขาลงซึ่งจะยิ่งเร่งให้นักลงทุนขาขึ้นออกจากตลาดมากกว่าเดิมและเปิดโอกาสให้แรงขายกลับมาเข้ามา รูปแบบลิ่มลู่ขึ้นบอกถึงการที่แนวโน้มหลักถูกขัดขวางด้วยปัจจัยบางอย่าง เมื่อพิจารณากับปัจจัยพื้นฐานก็จะยิ่งเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เข้ามาแทรกในตอนนี้คือปัญหาโควิด-19 ที่เคยก่อให้เกิดขาลงรุนแรงในวันที่ 10 จนถึง 19 มีนาคมซึ่งถือเป็นขาลงที่แรงที่สุดในรอบ 30 ปี
เป้าหมายของขาลงจากรูปแบบลิ่มลู่ขึ้นครั้งนี้อยู่ที่ 1.1409 หรือจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 20 มีนาคมในรอบหลายทศวรรษ หากที่ระดับราคาเป้าหมายยังไม่มีแรงซื้อหรือข่าวดีเข้ามาสนับสนุน กราฟ GBP/USD มีโอกาสลงไปลึกกว่านั้น แต่ในระยะเวลาอันใกล้ (สัปดาห์นี้) กราฟอาจจะสามารถดีดตัวขึ้นไปได้ก่อนเพราะแท่งเทียนปัจจุบันกำลังสร้างรูปแบบค้อน (Hammer) อยู่ เราอาจจะได้เห็นการกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านก่อนที่จะร่วงลงมาเข้าสู่เทรนด์ลงเดิม
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้ราคาลงมาต่ำกว่า 1.2000 และแท่งเทียนที่ทะลุแนวรับนั้นลงไปต้องมีความยาวอย่างน้อย 3% เพื่อหลีกเลี่ยงขาลงหลอกและแรงขาขึ้นที่อาจจะกลับมาได้จากจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอให้มีการหลุดแนวรับ 1.2000 เช่นกันแต่แท่งเทียนที่ทะลุลงไปขอมีความยาวเพียง 2% เพื่อเช็คขาลงหลอก
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเทรดสวนเทรนด์หลักด้วยการวางคำสั่งซื้อเพราะหวังผลกำไรระยะสั้นจากการดีดขึ้นมาของแท่งเทียน Hammer วิธีการเทรดนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้
ตัวอย่างการเทรด (ขาขึ้น)
- จุดเข้า: 1.2500 (เหนือตัวเลขจิตวิทยาที่อยู่สูงกว่าจุดต่ำสุดของเมื่อวาน)
- Stop-Loss: 1.2450 (5 จุดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของเมื่อวาน)
- ความเสี่ยง: 50 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:1.2700 (บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA)
- ผลตอบแทน: 200 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:4