SET จะไปต่อได้ไหม ? หลัง Bloomberg ยกให้ทางตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ แพงที่สุดในเอเชีย จะเสี่ยงทำให้เกิดการเทขายจากต่างชาติไหม ?
นักวิเคราะห์ Bloomberg ยกให้ตลาดหุ้นไทยที่ร้อนแรงมากๆในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากลายเป็นตลาดที่แพงที่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีอื่นๆในเอเชีย และกล่าวเตือนว่าอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มถอนการลงทุนออกไปได้
ดูกราฟ https://th.investing.com/indices/thailand-set-chart
SET ที่ทยอยปรับตัวขึ้นมา 45% จาก 1,000 จุดในเดือนมีนาคมขึ้นมาที่ 1,450 จุดเมื่อวันก่อน ก่อนที่เพิ่งจะโดนเทขายหนักๆลบไป -2.1% ในวันนี้ แต่หากเทียบกับเพื่อนบ้านต่างๆของเราทั้งหมดแล้วนั้นดัชนีบ้านเราถือว่าดีดตัวขึ้นมาหลังวิกฤตโควิดได้ดีที่สุด หากเทียบกับดัชนีหุ้นเอเชียรวมอย่าง MSCI Asia Pacific Index ที่เพิ่งปรับตัวขึ้นมาเพียง 30% จากช่วงเดือนมีนาคมนั้น ดัชนี SET ของทางไทยเราถือว่ายังนำหน้าอยู่มาก
อย่างไรก็ตามหากเราดูสถิติการเข้าซื้อขายหุ้นจากต่างชาตินั้น เรายังเห็นเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้า SET มาเรื่อยๆตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่าจะมีการเทขายเพื่อย้ายตลาดไปบ้างหรือไม่ หลังจากทาง Bloomberg ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวและส่งออกเป็นหลัก ซึ่งยังดูจะซบเซาไปจนถึงสิ้นปีนี้ภายใต้มาตรการ Lock Down
อีกปัจจัยสำคัญหลักๆคือ ค่าเงินบาท USD/THB
ค่าเงินบาทจะมีบทบาทสำคัญต่อการไหลเข้าออกของเงินทุนและเศรษฐกิจไทยเช่นกัน โดยเงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมจาก 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มาจนเหลือเพียง 31.3 บาทต่อเหรียญสหรัฐในวันนี้ หรือแข็งค่าขึ้นประมาณ 5% ภายใน 3 เดือน
ถึงแม้ทั้งปีนี้ค่าเงินบาทยังถือว่าอ่อนค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรวม (มีแค่อินเดียที่ยังอ่อนกว่าเรา หากดูรวมทั้งปีนี้) แต่หากบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องไปเรื่อยๆก็จะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศน้อยลง และนักท่องเที่ยวอาจลดลงเพราะค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ส่งออกยากขึ้นด้วย
มาติดตามกับเพจเราต่อได้ว่าตลาดโลกจะยังดันตลาดไทยขึ้นต่อได้หรือไม่ ? หรือถึงเวลาที่ตลาดอื่นๆจะน่าสนใจมากกว่าไทยแล้วจริงๆ ?
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP