ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับตัวสูงขึ้นได้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังจากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนแม้จะลดลงแต่ก็ถือว่าน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานยังทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 2 ล้านคนซึ่งในครั้งนี้มีตัวเลขอยู่ที่ 2.1 ล้านคน เช่นเคยตลาดลงทุนเลือกที่จะเมินตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ถูกประเมินออกมาลดลง สกุลเงินยูโร ปอนด์ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ยังทำผลงานได้ดีและถือว่าน่าประหลาดใจที่ตลาดลงทุนดูจะไม่กังวลกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ - จีนที่ดูจะรุนแรงขึ้นทุกวัน
ทั้งสหรัฐฯ และประเทศจีนต่างยังไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กันในเรื่องของฮ่องกง ล่าสุดทางกรุงปักกิ่งได้อนุมัติกฏหมายความมั่นคงใหม่อย่างเป็นทางการซึ่งจะทำให้ฮ่องกงสูญเสียอำนาจในการปกครองตนเองลงอย่างมาก กลุ่มผู้ต่อต้านกฏหมายความมั่นคงของชาติใหม่จะถูกลงโทษอย่างหนัก ไมค์ ปอมปิโอรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่าหากสถานการณ์ยังเป้นเช่นนี้ต่อไปสหรัฐฯ จำเป็นต้องตัดสิทธิพิเศษทางการค้า การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากฮ่องกง การลงทุนของบริษัทสหรัฐฯ ในฮ่องกงและอื่นๆ ที่มีกับฮ่องกง นอกจากนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีการออกมาแถลงเกี่ยวกับบทลงโทษหรือมาตรการคว่ำบาตรบางอย่างกับฮ่องกงภายใน 24-48 ชั่วโมงต่อจากนี้ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าสงครามเย็นครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นตลาดสกุลเงินยังดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีความเคลื่อนไหวกับสถานการณ์ในฮ่องกงมากนัก
แม้จะมีนักลงทุนบางส่วนสงสัยว่าทั้งๆ ที่เกิดเหตุร้ายแรงขนาดนี้ในฮ่องกงแต่ทำไมตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับยังเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์สหรัฐฯ - จีนในตอนนี้ได้ ส่วนหนึ่งแย้งว่าเพราะสหรัฐฯ กับฮ่องกงจริงๆ แล้วมีการค้าขายกันน้อยและผลกระทบที่เกิดขึ้นก็ยังถือว่าเล็กน้อยสำหรับสหรัฐฯ เหตุผลประการที่สองคือตลาดยังไม่เห็นบทลงโทษที่สหรัฐฯ จะมีต่อฮ่องกงอย่างเป็นรูปธรรม ประการที่สามแม้สถานการณ์ตามในข่าวจะดูรุนแรงแต่จีนก็ไม่จำเป็นต้องรุกคืบมากจนกว่าจะถึงช่วงเวลาแห่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสุดท้ายความเสี่ยงสูงสุดกับเศรษฐกิจโลกในตอนนี้ยังไม่ใช่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนแต่เป็นวิกฤตจากโควิด-19 ที่ตอนนี้ข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนยังปกคลุมไปทั่วตลาดและมาตรการปิดล็อกเมืองในแต่ละรัฐก็เปิดไปแล้วเกิน 90%
นอกจากนี้นักวิเคราะห์มองว่าเมื่อตลาดลงทุนได้ยินข่าวพาดหัวเกี่ยวกับสหรัฐฯ - จีนมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะกลายเป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ยังมีประเด็นให้กังวลอยู่ในเดือนใหม่ที่รออยู่ในสัปดาห์หน้าอีกอย่างเช่นการประชุมของธนาคารกลางหลายๆ ประเทศที่อาจจะได้เห็นมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม สกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ แม้จะปรับตัวขึ้นได้ดีเมื่อวานแต่ก็มีความเสี่ยงหากว่าความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ ส่งผลกระทบมาถึงตลาดลงทุนของทั้งสองประเทศ สกุลเงินแคนาดาดอลลาร์อาจปรับตัวลดลงอีกเพราะรายงานตัวเลขบัญชีบัญชีเดินสะพัดขาดดุลออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ เชื่อว่าตัวเลข GDP ในไตรมาสแรกของเดือนมีนาคมก็จะออกมาแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ด้วยเช่นกัน