โอกาสนั่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 ของทรัมป์เริ่มดูริบหรี่เข้าไปทุกที… แต่อย่าเพิ่งประมาทไปนะครับเพราะทางทรัมป์อาจมีแผนที่พวกเรานึกไม่ถึงอยู่เสมอ
อย่างที่ทางเราได้อัพเดทเรื่อยๆนะครับว่าช่วงนี้ทางทรัมป์นั้นได้เจอศึกรอบด้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับมือไวรัสโควิดที่กำลังทำให้สหรัฐเป็นประเทศที่มีการระบาดสูงที่สุดในโลก การทะเลาะกับ WHO เกือบทุกวัน และล่าสุดความตึงเครียดกับฝ่ายจีนก็เริ่มเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ...
ทำให้หลายฝ่ายอาจจะคิดว่าแล้วทรัมป์จะเอาเวลาที่ไหนไปหาเสียง ? เพราะนี่ก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 6 เดือนแล้วที่การเลือกตั้งสหรัฐจะเกิดขึ้น โพลล่าสุดหลายสำนักก็เริ่มจะให้คะแนนคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอย่าง โจ ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ขึ้นมาเรื่อยๆ...
แต่... เราอาจจะไม่รู้ว่าทุกๆเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นทุกวันนี่แหละครับคือการหาเสียงของทรัมป์ ! และไวรัสโควิด-19 ก็อาจจะส่งผลบวกให้ทรัมป์มากกว่าลบ !
วันนี้ผมได้ไปอ่านเจอบทความที่น่าสนใจเรื่องนึงที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐในสมัยที่ 2 ของคุณอาร์ม ตั้งนิรันดร จาก bangkokbiznews ซึ่งผมมองคล้ายกัน จึงอยากมาสรุปประเด็นสำคัญและให้ความเห็นเพิ่มกันครับ
กฎทองของการเมืองสหรัฐ ก็คือ ประธานาธิบดีที่จะได้รับการเลือกตั้งต่ออีกสมัยถ้าเศรษฐกิจดี หลายคนจึงบอกว่าทรัมป์คงแพ้แน่ในปีนี้ เพราะไวรัสโควิด-19 กำลังฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังดิ่งลงเหว มีคนตกงานกว่า 40 ล้านคนไปแล้วในคืนนี้
แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป ว่าทรัมป์จะแพ้นะครับ เพราะการเมืองสหรัฐยังมีกฎทองอีก 3 ข้อ ที่คนไม่ค่อยรู้ ซึ่งล้วนแล้วแต่กำลังเข้าทางทรัมป์ทั้งสิ้น
1. ประธานาธิบดีในช่วงสงครามมักจะได้รับการเลือกตั้งต่ออีกสมัย
เช่นตอน บุชจูเนียร์ ที่เป็นประธานาธิบดีช่วงสงครามอิรักเป็นต้น แม้ผลงานด้านอื่นๆจะไม่ดีเท่าไร ก็ยังได้รับการเลือกตั้งต่ออีกสมัย อาจเป็นเหตุให้ทรัมป์พาลหาเรื่องหลายๆประเทศเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นการคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา และการเริ่มสงครามการค้ากับจีนและอีกหลายประเทศ และทุกวันนี้ทรัมป์ก็พยายามจะเปรียบเทียบโควิด-19 ว่าเป็นสมรภูมิรบอยู่เสมอด้วย
คงเป็นเพราะภาพลักษณ์ประธานาธิบดีช่วงสงครามจะดูมีความแข็งแกร่งและเด็ดขาด ทำให้อาจเรียกคะแนนนิยมได้ ทรัมป์จึงไม่รอช้าเพราะตรงกับนโยบาย America First ของทรัมป์อยู่ด้วยแล้ว
2.ใครก็ตามที่ครองพื้นที่สื่อจะมีโอกาสชนะสูง
การครองพื้นที่สื่ออาจจะไม่จำเป็นต้องออกสื่อด้วยข่าวดีเสมอไป ขอเพียงผู้คนเห็นหน้าผู้สมัครเลือกตั้งในทีวีบ่อยๆ ก็จะทำให้คนคุ้นชินและทราบถึงงานที่เขาได้ทำแล้ว นี่ทำให้ประธานาธิบดีสมัยแรกจึงมีโอกาสกลับมาชนะอีกสมัยสูง เพราะจะได้เปรียบคู่แข่งในการต้องออกสื่อแถลงข่าวอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
วิกฤติโควิด-19 นี้กำลังทำให้ทรัมป์ครองพื้นที่สื่อเหนือกว่าโจ ไบเดน มากขึ้นไปอีก เพราะทรัมป์แถลงข่าวทุกวัน ! แม้จะพูดดีหรือแย่อย่างไร จะบอกให้ประชาชนไปกินสารซักฝอกหรือไม่ แต่ประชาชนก็แทบจะเห็นทรัมป์ตลอดทั้งวัน วันละสามเวลา
3. จำนวนคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งจะเป็นตัวตัดสินสำคัญ
จากสถิติที่ผ่านมานั้น หากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิสูง ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมักจะชนะการเลือกตั้ง แต่หากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิน้อย ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน (ของทรัมป์) ก็มักจะชนะ เพราะถ้าคนมาออกเสียงน้อย ส่วนใหญ่ที่ไม่มามักจะเป็นอเมริกันผิวดำและคนยากจน (ฐานเสียงของพรรคเดโมแครต) ทำให้ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันจะได้ประโยชน์
และแน่นอนว่าโควิด-19 ยังไม่น่าจะหายไปภายใน 6 เดือนนี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า พอถึงวันเลือกตั้งจะจัดการเลือกตั้งกันอย่างไร ? และจะมีคนออกไปใช้สิทธิไหม ? และกลุ่มคนที่กล้าออกมาเลือกตั้งจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่เห็นว่าไวรัสจะเป็นเรื่องร้ายแรง หรือกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดเมืองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็คือฐานเสียงของทรัมป์นั้นเองอยู่แล้ว ทำให้ครั้งนี้หากคนออกมาน้อยทรัมป์จะได้เปรียบแน่ๆ
และนี่ก็คือเหตุผลที่อาจทำให้ทรัมป์อาจยังมีโอกาสสูงอยู่ที่จะกลับมาชนะการเลือกตั้งอีกสมัย ถึงแม้ว่าโพลจะบอกว่าโอกาสเริ่มน้อยลงไปทุกทีก็ตาม
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ
ที่มา: อาร์ม ตั้งนิรันดร + bangkokbiznews + Bloomberg
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP