ตลาดหุ้นกับโลกความจริงยังคงสวนทางกัน สหรัฐมีคนตกงานเพิ่มอีก 2.4 ล้านคน แต่ตลาดหุ้นไต่ขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน!
อาทิตย์นี้ถือเป็นอาทิตย์ที่ 9 ติดต่อกันแล้วที่ยอด Initial Jobless Claim หรือผู้ขอสวัสดิการตกงานประจำอาทิตย์ของสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหากรวมตัวเลขในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีคนตกงานไปแล้วเกือบ 40 ล้านคน !
แต่ตลาดหุ้นสหรัฐกลับไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน ดัชนีหลักๆในสหรัฐที่เป็น Indicator หุ้นหลักของโลกไม่ว่าจะเป็น Dow Jones หรือ S&P ต่างยังขึ้นเรื่อยๆทีละนิดและพยายามจะทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไวรัสโควิดระบาดรุนแรงในสหรัฐ
ดัชนีหุ้น Dow Jones Industrial Averageกำลังทดสอบระดับ 25,000 จุด
ดัชนีหุ้น S&P 500 กำลังทดสอบระดับ 3,000 จุด
จริงอยู่ว่าตัวเลขคงตกงานในคืนนี้นั้นออกมาเท่าๆกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้เลยที่ 2.4 ล้านคน จึงไม่ได้ทำให้หุ้นโดนเทขาย หรือจริงอยู่ว่าเรื่องคนตกงานเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้ไปถึงอนาคตและหลายฝ่ายเชื่อว่าจะยังมีคงตกงานไปเรื่อยๆจนแตะระดับ 20-30% ของประเทศ และจริงอยู่ว่าทุกวันนี้ด้วยการอัดฉีดเงินและสภาพคล่องของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก ดอกเบี้ยต่ำติดติดจนกลายเป็นลบอยู่หลายที่แล้วด้วย ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าจะนำเงินไปไว้ที่ไหนนอกจากในตลาดหุ้นเพราะนั้นเป็นสิ่งเดียวที่กำลังให้ผลตอบแทนในตอนนี้
แต่หากเรามองย้อมมาดูในชีวิตจริง บริษัทที่โดนซื้อหุ้นไปเหล่านั้นจะสามารถทำกำไรได้ตามราคาที่นักลงทุนหลังหรือป่าว ? ตราบใดที่ผู้คนยังตกงานและไม่มีเงินมาใช้จ่ายได้เหมือนแต่ก่อน รายได้ของบริษัทจะมาจากไหนจริงๆ ?
ตลาดหุ้นกับโลกของความเป็นจริง จะยังคงสวนทางกันได้อีกนานแค่ไหน ?
หรือนี่คืออีกหนึ่ง "New Normal" ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกที่มีสภาพคล่องและเงินเหลือล้นในตลาดมากเกินไป ?
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP
ไม่อยากพลาดบทความดีๆ อย่าลืมกด "ติดตาม" นะครับ