ทำไมราคาน้ำมันดิบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ในอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงดีดขึ้นมาได้แรงมากกว่า Brent ? เหตุผลหลักๆนั้นอาจเป็นเพราะการผลิตน้ำมันในสหรัฐหายไปจากตลาดมากที่พวกเราคิดหรือ ?!?!
ราคาน้ำมันค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ทาง Goldman Sachs, OPEC และนักวิเคราะห์จากอีกหลายๆสำนักออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดน้ำมันได้ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว
ทำให้ในอาทิตย์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นมาจาก 25 เหรียญไปที่ 29.4 เหรียญ (+18%) และ Brent ปรับตัวขึ้นมาจาก 29 เหรียญไปที่ 32.5 เหรียญ (+12%)
โดยหลายท่านอาจจะสงสัยว่าปกติแล้วราคาน้ำมันดิบ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์จะได้รับแรงดันจากการลดกำลังการผลิตของโอเปกและพันธมิตรมากกว่า WTI ไม่ใช่หรือ ?
เพราะการลดกำลังการผลิตในตะวันออกกลางจะช่วยให้ตลาดโลกตึงตัวขึ้น ตลาดน้ำมันที่ส่งเข้าออกสะดวกอย่าง Brent น่าจะได้รับผลบวกมากกว่าตลาดน้ำมัน WTI ที่เป็นราคาส่งมอบในตลาดสหรัฐอย่างเดียว
ใช่แล้วครับ โดยปกติแล้วหากโอเปกลดกำลังการผลิตฝ่ายเดียวจะเป็นเช่นนั้น แต่ต้องอย่าลืมว่าการลดกำลังการผลิตในครั้งนี้นั้นทางสหรัฐกำลังเข้าร่วมการลดด้วย ! ไม่ว่าจะมาจากความสมัครใจหรือความจำเป็นเพราะไม่คุ้มค่าขุดเจาะก็ตาม
Bloomberg กำลังรายงานว่าตัวเลขการผลิตในสหรัฐ ที่ตลาดทราบนั้นอาจไม่ตรงความจริงซะทีเดียว...
ประเทศฝั่งโอเปกและพันธมิตรจะตกลงกันว่าจะเริ่มลดกำลังการผลิตกัน 23.5% เป็นเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ในขณะที่ประเทศนอกกลุ่มอย่างทางสหรัฐ แคนนาดา บราซิล นอร์เวย์นั้นไม่ได้กำหนดตัวเลขตายตัวแต่สัญญาว่าจะร่วมลดด้วย
สหรัฐนั้นเป็นประเทศที่รายงานระดับการผลิตได้รวดเร็วที่สุดในโลก เพราะกระทรวงพลังงานสหรัฐ EIA ได้สั่งให้ทุกๆบริษัทน้ำมันในประเทศส่งข้อมูลการผลิต ใช้ นำเข้า ส่งออกเข้ามาที่กระทรวงทุกๆสิ้นสัปดาห์และทาง EIA จะทำการรายงานทุกๆวันพุธเวลา 21.30น. ของไทย
โดยในอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นทาง EIA แสดงให้เห็นว่าตัวเลขการผลิตของสหรัฐนั้นได้ลดลงไปประมาณ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 10% นิดๆของการผลิตของประเทศ ซึ่งยังน้อยกว่าฝั่งโอเปกและพันธมิตรอยู่ถึงเกือบครึ่ง
แต่ถ้าอย่างนั้นทำไม WTI ถึงดีดสูงกว่า Brent ?
แน่นอนว่าการที่ตัวเลขของสหรัฐนั้นรายงานได้เร็วที่สุดนั้นเป็นข้อดี แต่ต้องเข้าใจว่าตัวเลขในบางมุมมองนั้นยังขาดความสมบูรณ์ นักวิเคราะห์ของ Bloomberg กล่าวว่าหากเรานำสมการ
การผลิตน้ำมัน + การนำเข้าน้ำมัน - การใช้น้ำมัน - การส่งออก = ตัวเลขสต็อกที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ
โดยหากการผลิตและการนำเข้าสูงกว่าการใช้และการส่งออก ตัวเลขสต็อกก็จะเพิ่มสูงขึ้น หรือในทางกลับกันหากการผลิตและการนำเข้าต่ำกว่าการใช้และการส่งออก ตัวเลขสต็อกก็จะลดลง
แต่หากตัวเลขออกมาไม่ตรงกับสมการนี้ แปลว่าความถูกต้องในข้อมูลจะลดลง ?
โดยปกตินั้นตัวเลขที่ EIA รายงานออกมานั้นจะเกือบตรงกับสมการด้านบนทุกๆอาทิตย์เลยทีเดียว โดยหากอาทิตย์ไหนตัวเลขทั้งสองด้านไม่เท่ากันก็จะต่างเพียงไม่เยอะ และทาง EIA ก็จะมาทำการแก้ไขตัวเลขทีหลังเมื่อที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมา แสดงให้เห็นว่าระบบการคำนวนข้อมูลน้ำมันในประเทศสหรัฐนั้นมี Accuracy ที่สูงมาก
อย่างไรก็ตามทาง Bloomberg รายงานว่าตัวเลขในอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นมีความต่างระหว่างตัวเลขการผลิต ใช้ นำเข้า ส่งออก กับระดับสต็อกที่เปลี่ยนแปลงไปสูงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเลยทีเดียว ! แปลว่าจะต้องมีตัวเลขตรงไหนขาดไป... ซึ่งทางนักวิเคราะห์เชื่อว่าต้องมาจากตัวเลขการผลิตน้ำมันในสหรัฐแน่ๆ !
นักวิเคราะห์ Bloomberg ฟันธงว่าการผลิตในสหรัฐนั้นจริงๆแล้วอาจจะหายไปแล้วที่ 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 18% ของการผลิตทั้งประเทศ ทำให้อาจมีน้ำมันหายไปจากตลาดสหรัฐในสัดส่วนที่มากกว่าตลาดอื่นๆของโลกที่กำลังทยอยลดกำลังการผลิตกันอยู่อีก !
หากข้อมูลนี้เป็นจริงก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมราคา WTI ถึงดีดขึ้นแรงกว่า Brent
ที่ปรึกษาด้านพลังงานชื่อดัง Facts Global Energy ออกมาฟันธงว่าการผลิตในสหรัฐจะยังหายไปอีกเยอะ
Facts Global Energy ได้ออกมากล่าวว่าปรมาณการผลิตของสหรัฐน่าจะหายไปจากทั้งการสมัครใจและการที่หลายๆบริษัทเริ่มไม่สามารถผลิตได้เพราะราคาต่ำกว่าต้นทุน อยู่รวมๆกันที่ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้หากเป็นจริงสหรัฐจะกลายเป็นประเทศที่ลดกำลังการผลิตมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 รองจากซาอุ ในการรวมพลังครั้งประวัติศาสตร์ของผู้ผลิตทั่วโลกในครั้งนี้
โดยรวมแล้วหากไม่เกิดอะไรผิดผลาดจากการระบาดระยะที่ 2 ของไวรัสจนต้องปิดเมืองกันหนาแน่นขึ้น หรือทางประเทศผู้ผลิตต่างๆยังไม่มีใครแอบเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงกว่าโควตาที่ตกลงกันไว้ ดูเหมือนว่าตลาดน้ำมันจะ ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้ว จริงๆครับ
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP
ดูกราฟราคาน้ำมัน WTI
https://th.investing.com/commodities/crude-oil
ดูกราฟกองทุนรวมInvesco DB Oil Fund (NYSE:DBO)