📈 คุณจะเริ่มลงทุนอย่างจริงจังในปี 2025 ไหม? เริ่มต้นก้าวแรกพร้อมรับส่วนลด 50% สำหรับสมาชิก InvestingProรับส่วนลด

กราฟเด่นประจำวัน: ปอนด์สเตอร์ลิงมีโอกาสลงไปทดสอบ 1.1500 จุด

เผยแพร่ 14/05/2563 12:07
GBP/USD
-

เมื่อวานนี้สหราชอาณาจักรได้ปล่อยข่าวรายงานเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาเป็นชุดเพื่อให้ข้อมูลสรุปผลกระทบที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งตัวเลขที่ออกมาสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดขาขึ้น ถามว่าประหลาดใจอย่างไร? คำตอบก็คือตัวเลขที่ออกมานั้นถึงจะแย่แต่ก็ออกมาดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เอาไว้

ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ของสหราชอาณาจักรปรับตัวลดลง 2% จากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ที่ -2.5% อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ทำให้นักลงทุนในตลาดหมีประหลาดใจก็คือตัวเลข GDP แบบปีต่อปีที่ออกมาติดลบ 5.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลบมากที่สุดในประวัติศาสตร์การรายงานตัวเลข GDP แบบปีต่อปีของสหราชอาณาจักร สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานข่าวเกี่ยวกับตัวเลข GDP ของสหราชอาณาจักรว่า

“ตัวเลขยอดขายปลีกของสหราชอาณาจักรในเดือนเมษายนร่วงลง 19.1% จากตัวเลขยอดขายปลีกในปี 2019 ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 ที่เริ่มมีการบันทึกเก็บสถิติเรื่อยมา อีกตัวเลขหนึ่งที่สามารถบ่งบอกผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดล็อกเมืองได้เป็นอย่างดีคือดัชนีวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดย Barclaycard ที่ปรับตัวลดลง 36.5% เมื่อเดือนที่แล้ว”

ความกังวลในตลาดลงทุนทุกวันนี้ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าตลาดไม่มีความมั่นใจมากเท่าไหร่กับความพยายามกลับมาเปิดเมืองเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้งในขณะที่โลกยังไม่มีระบบการจัดการที่ดีพอมารับมือกับไวรัสโควิด-19 ความกังวลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรด้วยเช่นกัน

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เผยว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่มรสุมทางเศรษฐกิจที่หนักที่สุดในรอบ 300 ปี โมเดลการคำนวณของแบงก์ชาติอังกฤษอ้างอิงมาจากตัวเลขการหดตัวทางเศรษฐกิจ 3% ซึ่งจากตัวเลข GDP ที่ออกมาตัวเลขที่ได้กลับมีเพียง 2% เท่านั้น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเรารู้คืออุปสงค์อุปทานที่อยู่ในสกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงแสดงออกมาในรูปแบบของราคาและสิ่งที่เราเห็นในตอนนี้คือกราฟกำลังมุ่งหน้าลงไปยังระดับราคา 1.2000 โดยที่มีโอกาสลงไปยัง 1.1500 ได้หากว่ายังไม่มีนักลงทุนฝั่งซื้อเข้ามาอุ้ม

GBP/USD Daily

ตั้งแต่เข้าสู่เดือนพฤษภาคมกราฟปอนด์เทียบดอลลาร์ยังไม่สามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นจุดต่ำสุดของเดือนเมษายนก็ไม่สามารถขึ้นไปอยู่ระดับที่สูงกว่าจุดสูงสุดของเดือนมีนาคม 2 ปัจจัยนี้สนับสนุนความอ่อนแรงของแนวโน้มขาขึ้นเชิงโครงสร้างซึ่งได้รับการยืนยันโดยอินดิเคเตอร์ ROC ส่วน RSI ที่เป็นอินดิเคเตอร์วัดโมเมนตัมเหมือนกันแต่คำนวณต่างกันก็แสดงให้เห็นว่าแนวรับอาจจะไม่สามารถยันราคาเอาไว้ได้

จากรูปจะเห็นว่าราคาวิ่งอยู่ในกรอบเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่จุดสูงสุดของเดือนมีนาคมและจุดต่ำสุดของเดือนเมษายนลากมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญกราฟได้สร้างรูปแบบหัวไหล่ (H&S) ของขาลงเสร็จเรียบร้อยแต่การที่ราคายังสามารถยืนเหนือจุดต่ำสุดของเดือนเมษายนได้อยู่แสดงว่ากราฟ GBP/USD ยังมีแรงซื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อมาพิจารณาที่เส้นค่าเฉลี่ยพบว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 DMA ได้อยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA เป็นครั้งแรกคิดเป็นการปรับตัวลดลงมา 5% ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา

โดยสรุปแล้วตอนนี้ RSI ได้หลุดเส้นเทรนด์ไลน์ลงมาเรียบร้อยและเส้น MA ระยะสั้นในอินดิเคเตอร์ MACD ก็ตัดลงมาแล้วซึ่งอินดิเคเตอร์ทั้งสองส่งสัญญาณบอกแล้วว่ากราฟกำลังมุ่งหน้าลง

กลยุทธ์การเทรด

เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาสามารถเจาะ neckline ลงมามากกว่า 3% ยิ่งมีราคาปิดต่ำกว่า 1.2000 ยิ่งดี จากนั้นจะรอให้ราคาย่อกลับขึ้นไป มีแท่งเทียนยืนยันขาลงแล้วจึงวางคำสั่งขาย

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอการเจาะ neckline เช่นกันแต่จะรอเพียง 2% เท่านั้นอย่างน้อยก็เพื่อหนีสัญญาณหลอก ยิ่งกราฟมีราคาปิดต่ำกว่า 1.21 ได้ยิ่งดี จากนั้นจะรอการดีดกลับของราคาเช่นเดียวกับกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยงแต่จะไม่รอแท่งเทียนยืนยันขาลงเพื่อให้ได้จุดเข้าที่คุ้มค่าความเสี่ยงกว่า

เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเทขายทันทีเมื่อพร้อมซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้มีความเข้าใจในเรื่องของความเสี่ยงเป็นอย่างดี พวกเขารับความเสี่ยงได้หากว่าราคาลงไปจนถึงระดับเป้าหมายที่กำหนดไว้แล้วมีการดีดกลับทันที พวกเขามีแผนการเทรดที่จัดมาแล้วแม้ว่าจะต้องขาดทุนจาก 1 ออเดอร์ซื้อขายแต่นั่นก็ไม่มากพอที่จะกินกำไรที่ทำได้ทั้งหมด


ตัวอย่างการเทรด

- จุดเข้า: 1.2300

- Stop-Loss: 1.2500

- ความเสี่ยง: 200 จุด

- เป้าหมายในการทำกำไร:1.1700

- ผลตอบแทน: 600 จุด

- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย