ดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มสัปดาห์ใหม่ด้วยมูลค่าที่แข็งแกร่งกว่าสกุลเงินหลักอื่นๆ แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ของเดือนเมษายนที่ออกมาจะเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การลงทุนแต่ตัวเลขนั้นก็ยังไม่แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ประกอบกับเมื่อวานยังไม่มีข่าวทางเศรษฐกิจที่ออกมากระทบต่อสกุลเงินดอลลาร์ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดอลลาร์ยังยืนอยู่ได้
อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะเริ่มมีความระวังมากขึ้นในการเทรดกับสกุลเงินดอลลาร์วันนี้เพราะข้อมูลตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ วันพุธมีคำแถลงการณ์จากประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์และรายงานตัวเลขยอดขายปลีกในวันศุกร์ นอกจากคำแถลงการณ์ของประธานเฟดแล้วเรายังจะได้ติดตามคำแถลงการณ์จากเฟดอีกหลายๆ คนเช่น Bostic, Kashkari, Harker, Bullard, Quarles, Mester และ Kaplan คำถามที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดอลลาร์คือ “มีความเป็นไปได้อีกไหมที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่ม?” ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เคยให้สัญญาไว้ว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากว่าอัตราดอกเบี้ยลงไปจนถึงระดับติดลบ สัปดาห์ที่แล้วกองทุนล่วงหน้าของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกมาคาดการณ์ว่าเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยมีโอกาสติดลบว่าจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้แต่กราฟราคาพันธบัตรจะสามารถดีดกลับขึ้นมายืนเหนือตัวเลขศูนย์ได้
สำหรับตอนนี้เราคิดว่านักลงทุนยังไม่ควรไปสนใจกับตัวเลขอัตราดอกเบี้ยว่าจะติดลบหรือไม่ภายในสิ้นปีเพราะประธานเฟดจะไม่พูดถึงประเด็นนี้ในเร็วๆ นี้แน่นอน ตอนนี้ทุกฝ่ายอยากรอดูว่าเมื่อสหรัฐฯ กลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจอีกครั้งจะประสบความสำเร็จและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้มากน้อยแค่ไหนซึ่งการกลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจนี้ต้องทำควบคุ๋ไปกับการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของไวรัสรอบที่ 2 ด้วย ตัวเลขดัชนี CPI ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ของเดือนที่แล้วจะช่วยกดอัตราเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มสูงมากนัก โดยรวมแล้วตอนนี้อนาคตของเศรษฐกิจอเมริกาดูสดใสขึ้น
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตลาดจะให้ความสนใจในสัปดาห์นี้คือการประกาศนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ตัวเลขการจ้างงานของออสเตรเลีย ตัวเลขยอดขายปลีกของประเทศจีนและตัวเลข GDP ของยูโรโซนแบบปรับปรุงแล้ว สกุลเงินนิวซีแลนด์และออสเตรเลียดอลลาร์ทำผลงานได้แย่ที่สุดเมื่อวานนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งถือเป็นลางบอกเหตุของเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ช่วงก่อนหน้านี้ทั้งสองสกุลเงินปรับตัวสูงขึ้นจนสามารถขึ้นไปวิ่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือนก่อนที่จะเริ่มพักตัว
นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางของนิวซีแลนด์จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของตนเองแต่ผู้ว่าการธนาคารกลางก็เผยว่าไม่อยากให้ทุกคนประมาทและตัวเลขอัตราดอกเบี้ยยังมีสิทธิ์ที่จะลงไปจนถึงตัวเลขติดลบได้อยู่เสมอ นอกจากนี้ทางแบงก์ชาติยังพูดว่าอาจมีการพิจารณากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเดือนพฤศภาคม นับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ที่ออกมาก็ผสมกันไปหมด รายงานตัวเลขยอดการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตและการอนุญาตให้มีการก่อสร้างลดลงแต่ตัวเลขดุลบัญชีการค้าและการจ้างงานในไตรมาสที่ 1 ยังคงอยู่ในระดับที่ดีแทนที่จะร่วงลงตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ ตัวเลขความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจของเดือนพฤศภาคมก็ดีขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างมากในเดือนเมษายน สถานการณ์โดยรวมในนิวซีแลนด์ตอนนี้การปิดล็อกเมืองมาตลอด 2 เดือนกำลังจะจบลง โรงเรียนและธุรกิจจะกลับมาดำเนินกิจการต่ออีกครั้งและทางธนาคารกลางนิวซีแลนด์ก็อาจไม่จำเป็นที่ต้องผ่อนปรนนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม เหตุผลทั้งหมดนี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์กลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้งหลังจากการประชุมของแบงก์ชาติผ่านไป
แม้แคนาดาดอลลาร์จะยังถูกกดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์และด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ผูกติดอยู่กับราคาน้ำมัน เราเชื่อว่าแคนาดาดอลลาร์ จะสามารถเปล่างประกายได้ในสัปดาห์นี้ นอกเหนือจากรายงานตัวเลขอัตราการจ้างงานของแคนาดาในวันศุกร์ที่จะมีความสำคัญแล้วล่าสุดทางซาอุดิอาระเบียได้ขออาสาออกมาเป็นผู้ที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 1 ล้านบาร์เรลในเดือนมิถุนายน ข่าวนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนในตลาดแต่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับราคาจริงๆ อาจะเป็นผลกระทบในระยะสั้น
สกุลเงินปอนด์ปรับตัวลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับยูโรแต่ทั้งสองสกุลเงินยังไม่แสดงอาการออกมาเพราะดอลลาร์ยังกดเอาไว้อยู่ นอกจากรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาสแรกของยุโรปก็ไม่มีข่าวสำคัญทางเศรษฐกิจใดที่มีความน่าสนใจเท่า สถานการณ์ในสหราชอาณาจักรขออ้างอิงคำพูดจากเพื่อนนักวิเคราะห์นาย Boris Schlossberg เอามารายงานซึ่งเขาเขียนว่า
“ตอนนี้นายกรัฐมนตรีของอังกฤษนายบอริส จอห์นสันได้ประกาศผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์สำหรับบางพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในเดือนมิถุนายนและพื้นที่ทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่จะได้รับอนุญาตให้เปิดได้ในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตามการประกาศนี้กลับไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรกับการเว้นระยะห่างทางสังคมจึงทำให้กราฟ GBP/USD มีราคาอยู่ที่ประมาณ 1.2400 อย่างที่เห็น”
ฝั่งยูโรยังไม่มีข่าวความคืบหน้าเพิ่มเติมจากศาลรัฐธรรมนูญชั้นสูงสุดแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีซึ่งส่งผลให้สกุลเงินยูโรยังคงอยู่ในขาลงต่อไป
อัพเดทอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินทั่วโลก
https://th.investing.com/currencies/
แปลงอัตราแลกเปลี่ยน
https://th.investing.com/currency-converter/