วันนี้ 24 เม.ย. คาดว่า SETINDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1260 -1277 จุด
เชื่อว่าจะได้แรงหนุนจากกลุ่มน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบ BRENT (NYSE:BNO) ปรับตัวขึ้น 4.7% ยังคงเป็นเรื่องของอ่าวเปอร์เซีย หลังจากทางหัวหน้ากองก้าลังพิทักษ์การปฎิวัติของอิสลามของอิหร่านเผยว่าจะทำลายเรือรบสหรัฐหากสหรัฐเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของอิหร่าน อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของดัชนีคาดจ้ากัด เนื่องจากเชื่อว่าจะเผชิญกับความผิดหวังของยารักษา COVI D -19 ซึ่งก่อนหน้านี มีรายงานออกมาว่ายา Remdesivir สามารถใช้รักษาผู้ป่วย COVID - 19 ให้มีอาการดีขึนอย่างไรก็ดีเมื่อคืนที่ผ่านมาตัวยาดังกล่าวถูกน้ามาใช้ที่ประเทศจีนแต่กลับไม่สามารถช่วยผู้ป่วยได้
ด้าน Valuation ของดัชนีล่าสุดซื้อขายที่ระดับ 16.8x Forward PE (อิงประมาณการจาก Bloomberg Consensus) ซึ่งระดับดังกล่าวใกล้เคียงจุดสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 17.5 x อย่างไรก็ตาม 16.8x มาจากสมมติฐานที่ Bloomberg ประเมินว่ากำไรทั้งปีจะ ติดลบ 12 %YoY ซึ่งดูสวนทางกับ 1Q20 ที่ทั้งไตรมาสคาดว่าจะออกมาติดลบสูงถึง 45 %YoY ดังนั้น 2 Q -4Q กำไรรวมจะต้องทำได้เท่ากับทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้วมองว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยากไม่ว่าจะจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับต่ำ ท่องเที่ยวที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว ธนาคารพาณิชย์ที่อาจเผชิญกับการตั้งสำรองระดับสูง ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าปัจจุบันดัชนีอาจจะซื้อขายเกินกว่า 17.5x (แพงมาก) ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะให้แบ่งขายเพื่อถือครองเงินสดมากขึ้น (ควรมีเงินสดไม่ต่ำกว่า 70% พอร์ต ) แต่แนะใช้เม็ดเงินสัก 20% ในการเข้า Trading หุ้นได้บางส่วน โดยหุ้นที่น่าสนใจมองไปยัง 2 ธีมการลงทุน ธีมแรกหุ้นได้ประโยชน์จากการผ่อนคลาย Lock Down (CPN CPALL (BK:CPALL) HMPRO GLOBAL PLANB VGI) ธีมที่สอง Defensive (ADVANC BCPG BGRIM EGCO GPSC RATCH)
Stock Pick
BCPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22.8 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1Q20 ที่ 520 ล้านบาท (+ 6 %YoY +17 %QoQ) เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San 3A และ 3B โดยการเติบโต QoQ หนุนจาการรับรู้รายได้โครงการ 3B ในไตรมาสนี ขณะที่การเติบโต YoY หนุนจากการรับรู้รายได้ 3 A ขณะที่ผลประกอบการ ในช่วง 2 Q20 จะยิ่งเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นเนื่องจากเป็นปัจจัยฤดูกาลของพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในไทยและจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในลาว
GFPT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 12 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1Q20 จะอยู่ที่ 255 ล้านบาท (+12 %YoY + 2 %QoQ) หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นตามต้นทุนการเลี้ยงที่ลดลง รวมถึงผลประกอบการของบริษัทร่วม (McKeys , GFN) ที่จะดีขึ้นเนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง ขณะที่เรื่องของ COVID -19 บริษัทเองไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเนื่องจากค้าสั่งซื้อของลูกค้ายังคงไม่ได้ถูกยกเลิกแต่อย่างใด สำหรับส่วนที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนสั่งเครื่องจักร คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ในปลายปีนี้
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th