รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เป็นไปได้แค่ไหนกับการทำสกุลเงิน “ดิจิทัลดอลลาร์”?

เผยแพร่ 23/04/2563 12:03
อัพเดท 02/09/2563 13:05

การมาของวิกฤตโควิด-19 ที่เรากำลังเผชิญร่วมกันอยู่ทั่วโลกนำมาซึ่งคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับการทำสกุลเงิน “ดิจิทัลดอลลาร์” แต่ถ้าเราไปเปิดดูพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์สหรัฐฯ ทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับความจริงว่าแทบไม่มีข่าวหรือใครพูดถึงเงินดิจิทัลเลย ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็มีแต่ข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐซึ่งหมายความว่าความเป็นไปได้ที่จะได้เงินสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์คงไม่ใช่เร็วๆ นี้

ถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจว่าอาจจะมีการลองนำสกุลเงินดิจิทัลของดอลลาร์มาใช้กับการเสียภาษีของประชาชนสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคมวุฒิสมาชิกนาย Sherrod Brown ได้เสนอกฏหมายที่มีชื่อว่า “Banking For All Act” ซึ่งจะให้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน หรือบริษัททางการเงินที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แล้วสามารถมีบัญชีดิจิทัลที่ได้รับการรับรองจากเฟด เพื่อให้องค์กรหรือธนาคารเหล่านี้สามารถทำธุรกรรมกับเฟดได้โดยตรง

เพราะการมาของโควิดแม้แต่การสัมผัสพันธบัตรโดยตรงก็อาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ ดังนั้นแนวคิดนี้จึงถือว่าปลอดภัยทั้งยังสามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่รัฐบาลกำลังอยู่ในช่วงแจกเงินให้ถึงประชาชนได้โดยตรง หากมีกลไกนี้เข้ามาช่วยแล้วการทำธุรกรรมจากธนาคารกลาสู่ธนาคารพาณิชย์จะเป็นเรื่องที่รวดเร็วและง่ายดายมาก ทั้งยังสามารถตรวจสอบผู้ที่ขอรับเงินได้อย่างถูกต้องแม่นยำและมีความปลอดภัยสูง

สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์ยังสามารถมีประโยชน์ได้มากกว่านี้อีกหรือไม่?

การทำดอลลาร์ให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลยังมีประโยชน์มากกว่านี้อีกหรือไม่? ก่อนที่จะตอบคำถามนี้เราอยากจะให้ดูตัวอย่างประเทศอย่างจีนหรือสวีเดนที่ได้พยายามและผลักดันให้ประชาชนใช้งานสกุลเงินธรรมดาในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่แข่งคนสำคัญอย่างประเทศจีนที่ต้องยอมรับว่าการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัลของจีนมีส่วนช่วยลดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางสหรัฐฯ เองอันที่จริงแล้วก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกับองค์กร “Digital Dollar Foundation” เพื่อพยายามทำสกุลเงินดิจิทัลอยู่โดยพวกเขาพยายามจะเรียกมันว่า “Central Bank Digital Currency (CBDC)”

อ้างอิงข้อมูลจากโพสต์เมื่อไม่นานของเว็บไซต์ CoinDesk ระบุว่าอดีตประธานองค์กรกํากับดูแลการซื้อขายอนุพันธ์ของสหรัฐอเมริกา (CFTC) นาย Christopher Giancarlo กล่าวว่า “จุดประสงค์หลักของสิ่งที่เรียกว่า “ดิจิทัลดอลลาร์” ที่พยายามทำมาทั้งหมดก็เพื่อทำให้การทำธุรกรรมสามารถไปถึงมือของผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น”

เขายังกล่าวต่ออีกว่า “ในช่วงแรกสกุลเงินดิจิทัลอาจจะเป็นข้อได้เปรียบของฝั่งรัฐ แต่เมื่อสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์ได้ไปถึงมือประชาชนแล้วพวกเขาจะได้เรียนรู้ว่าการชำระเงินด้วยพันธบัตรหรือเหรียญในแบบที่เราคุ้นเคยก่อนโควิด-19 มานั่นเสี่ยงแค่ไหน ที่สำคัญสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์ยังมีโอกาสไปถึงคนอื่นๆ ทั่วโลกได้ ประชาชนสามารถสั่งซื้ออุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้โดยง่าย นอกจากจะเป็นการช่วยชีวิตแล้วยังเพิ่มความสะดวกสบายให้อีกด้วย”


ไม่ใช่แค่เฉพาะอดีตประธาน CFTC ที่ออกมากระตุ้นภาครัฐให้ทบทวนเรื่องการใช้ทำสกุลเงินดิจิทัลนาย Ankit Bhatia CEO ของ Sapien Network เชื่อว่าถ้ารัฐบาลอนุมัติและเห็นด้วยกับการใช้สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์อย่างจริงจังจะเป็นการก้าวสู่โลกยุคใหม่หลังโควิด-19 อย่างแท้จริง

“หากว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ทำจริงจะถือเป็นข่าวใหญในวงการคริปโตฯ เป็นอย่างมากเพราะคราวนี้จะเป็นการบังคับพ่อค้าแม่ค้าจริงๆ แล้วว่าจะต้องพัฒนาระบบของร้านให้สามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์ เมื่อผู้คนเริ่มชิน (เหมือนกับการที่เราถูกบังคับให้ทำงานจากที่บ้าน) ผู้คนก็จะเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ใช้เงินสดหันไปใช้เงินดิจิทัลดอลลาร์ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า ที่สำคัญปัญหาเรื่องธนบัตรปลอมจะหมดไปเลย”


เมื่อมีคนเห็นด้วยแน่นอนว่าย่อมมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยนาย Cyril Alvarez หัวหน้าทีมผู้พัฒนาบล็อกเชนของบริษัท 2gether เตือนว่าหากเกิดสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์ ขึ้นมาจริงในอนาคตเงินสกุลนี้อาจต้องเจอปัญหาในแง่ของการมีคู่แข่งได้

“นี่คือปัญหาหลักๆ ที่สกุลเงินที่ทำหน้าที่เป็น stable coins กำลังเจออยู่ไม่ว่าจะเป็น Tether หรือ DAIจะมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่อยากถือสกุลเงินหลักจริงๆ และหันไปใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่างอื่นที่มีมูลค่าใกล้เคียงกว่ากันแทน คราวนี้คู่แข่งจะไม่ได้มีแค่สกุลเงินปกติแล้วแต่รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลด้วย สุดท้ายแล้วการเกิดขึ้นของดิจิทัลดอลลาร์จะนำไปสู่การแบน stable coin ที่ไม่ใช่ของรัฐ”

นาย Alvarez ยังฝากคำถามให้คิดอีกว่า

“คำถามที่แท้จริงควรจะเป็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสกุลเงินดิจิทัลของชาติในอีก 10-20 ปีข้างหน้าหากว่า stable coins อื่นๆ ได้รับการยอมรับเช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์? รัฐบาลจะจัดการปัญหานี้อย่างไร? จะแบนสกุลเงินเหล่านี้หรือจะเข้ามาควบคุม private keys ของผู้ใช้? ถ้าทำอย่างนั้นแล้วปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวก็จะตามมาอีกแล้วสกุลเงินดอลลาร์จะทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองของโลกเหมือนเดิมได้อย่างไร? จากคำถามทั้งหมดที่ผมชี้ให้เห็นนี้สามารถสรุปได้เลยว่าสกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์อาจจะต้องได้รอไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ”

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย