Daily View & Strategy คาด SET INDEX อ่อนตัวกรอบ 1235 - 1250 เนื่องจาก
แรงกดดันจากกลุ่มน้ำมัน เมื่อคืนที่ผ่านมาน้ำมันดิบ Brent (NYSE:BNO) ร่วงลงแรงถึง 24% ทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 19 ปี เนื่องจาก (1) เข้าใกล้หมดอายุ สัญญาส่งมอบเดือน มิ.ย. ในวันที่ 30 เม.ย. ส่งผลให้นักลงทุนที่ไม่ได้มีความต้องการน้ำมันจริงๆจำเป็นที่จะต้องปิดสัญญาก่อน (2) อุปสงค์ / อุปทาน นักวิเคราะห์พลังงานเราได้ให้ข้อมูลว่า Demand น้ำมันในเดือน เม.ย. ลดลง 30 ล้านบาร์เรล / วัน ขณะที่ Supply หลังกลุ่มโอเปก+สหรัฐ ลดกำลังการผลิตแล้วจะลดลงเพียง 15 ล้านบาร์เรล / วัน ดังนั้นภาวะอุปสงค์ / อุปสงค์ ยังคงเป็นภาวะอุปทานส่วนเกินอยู่
วานนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออก / นำเข้า ประจำเดือน มี.ค. พบว่า มูลค่าการส่งออกขยายตัว 4%YoY ดีกว่า Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะชะลอตัว 5.8%YoY นำมาโดยอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัว 8.6%YoY , ไก่สดแช่แข็งขยายตัว 7.2%YoY ประเมินเป็นบวกต่อ CPF TFG GFPT ส่วนการนำเข้าขยายตัว 7.2%YoY ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดว่าจะชะลอตัว 8%YoY อย่างไรก็ตาม ไส้ในเป็นการโตจากสินค้าเชื้อเพลิง 9%YoY ขณะการนำเข้าที่บ่งบอกถึงแนวโน้มเศรษฐกิจระยะถัดไป อาทิ เครื่องจักรและส่วนประกอบชะลอตัว 9.7%YoY สะท้อนเศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้ายังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัด ทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังดูไม่น่าสนใจขณะเดียวกัน Outlook หลังจากการเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ผู้บริหาร (KBANK (BK:KBANK) SCB) ผู้บริหารยังคงมุมมองระมัดระวังต่อการตั้งสำรองที่อาจสูงขึ้นในระยะถัดไปนำมาซึ่งมาแรงกดดันต่อผลประกอบการ ขณะที่ฝั่งรายได้แต่ละธนาคารต้งเป้าเติบโตสินเชื่อเฉลี่ย 3-6% มองว่าค่อนข้างท้าทายเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจไทยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินว่าทั้งปีจะติดลบ 5.3%YoY
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงมุมมองเช่นเดิมทยอยแบ่งขาย / ถือครองเงินสด ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะเล่นสั้นจบในวันและเลือกหุ้นมีปัจจัยบวก อย่างกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวลง (AAV EPG PTG SCC TASCO) กลุ่มส่งออกไก่ (CPF GFPT TFG)
Stock Pick
TASCO (BK:TASCO) (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21 บาท) ปรับประมาณการกำไรปี 2020E ลง 23% สู่ระดับ 2.5 พันล้านบาท ตามยอดขายที่ลดลงในจีนและมาเลเซีย โดยคาดยอดขาย ทั้งปีจะอยู่ราว 2.05 ล้านตัน (เดิม 2.2 ล้านตัน) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่ 2.1-2.2 ล้านตันและยอดขายปีที่แล้วที่ 2.27 ล้านตัน อย่างไรก็ตามคาดยอดขายใน 2Q20E มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะจากจีนประกอบกับจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง
CPF (BK:CPF)(ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 32.25 บาท) มองบริษัทเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการ รายงานตัวเลขส่งออกไก่สดแช่แข็งที่เติบโต 7% ขณะที่ผลประกอบการ 1Q20 คาดว่า บริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโต 35%YoY 44%QoQ มาอยู่ที่ 5.78 พันล้านบาท หนุนจากราคาหมูที่ทรงตัวระดับสูง ประกอบกับมีการรับรู้รายได้เงินลงทุนจากบริษัทที่ได้เข้าไป ลงทุนก่อนหน้านี้ ราว 250 ล้านบาท
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th