สรุปบทสัมภาษณ์คุณฮง ในรายการ “เราต้องรอด” ของ Wealth Me Up นะครับ
1. เข้าใจธรรมชาติของวิกฤต ตลาดหุ้นนำเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นเป็น “Financial Sector” แต่เศรษฐกิจ เป็น “Real Sector”
Financial จะเป็นตัวดีดเศรษฐกิจ ไม่มีประโยชน์ที่จะไปนั่งเก็งว่า GDP จะเป็นเท่าไหร่ เพราะถ้ารอให้มันกลับตัว ตลาดหุ้นจะขึ้นไปแล้ว จะทำให้เกิดค่าเสียโอกาสในการลงทุน
2. อย่าถอดใจผิดจังหวะ
เหมือนเล่นเกมส์ชกมวย สลับกันต่อยกันคนละ 1 นาที ห้ามชกกลับ ตอนนี้เรารับหมัดเค้ามาแล้ว 1 นาที แล้วจะมาบอกว่า ไม่เอาแล้วกลับบ้านดีกว่า เรารับหมัดไปเยอะแล้ว เราต้องเอาคืน
พอเวลาไม่วิกฤต เราก็อยากให้มีวิกฤต
แต่พอมีวิกฤต เรากลับกลัว ไม่กล้าลงทุน
มันกลายเป็นการถอดใจผิดจังหวะ
3. ลงทุนวันนี้เพื่อเกษียณในอีก 10 ปีข้างหน้า
• เราไม่รู้ว่าอีก 3 เดือน 6 เดือนข้างหน้า ดัชนีเป็นไงเราไม่รู้ เราไม่จำเป็นต้องรู้ แต่เรารวยได้ ถ้าขยันมากพอ
• จำกัดความโลภ ไม่ใช้มาร์จิ้น หรือ block trade มีแต่คนบ้าที่ปลูกต้นไม้วันนี้ แล้วหวังผลให้โตวันพรุ่งนี้ อย่าหวังรวยเร็วเหมือนไปเล่นคาสิโน
4. ดูกำไรหลังวิกฤต และความถูกแพงที่เหมาะสม
ปีนี้ฐานกำไรบริษัทอาจจะต่ำกว่าปกติ ให้ดูว่าหลังจากผ่านวิกฤตไปแล้วกำไรของบริษัทจะกลับมาเท่าไหร่ ดู P/E ตรงนั้นเหมาะสมกว่า และต้องมีความรู้ในบริษัทที่เราจะลงทุน ใน sector เดียวกันก็จะมีทั้งหุ้นที่ดีและไม่ดี ไม่ได้ลงทุนได้ทุกตัว และดูเทียบกับวิกฤตรอบก่อน เช่น Subprime ว่าหุ้นที่กลับขึ้นมาลักษณะเป็นอย่างไร
5. เลือกบริษัทที่มีคุณภาพ และดูว่าราคาไหนที่เหมาะสม
• ดู ROE สูงกว่าคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤตที่ผ่านมา หุ้นที่ ROE สูงจะกลับมาเติบโต
• ดู D/E สูงหรือยัง ดอกเบี้ยจ่ายเยอะแค่ไหน มี EBIT เพียงพอจ่ายมั้ย มีสภาพคล่องพอหรือเปล่า
• ดูวิสัยทัศน์ของผู้บริหารว่าทำธุรกิจแบบไหน ทำแบบเผื่อเหลือเผื่อขาด หรือทำแบบไม่รวยก็เจ๊ง
• ราคาหุ้นฟื้นตัวไปเยอะหรือยัง
6. เรียนรู้ อย่าให้โดนหลอกอีก
มิจฉาชีพหลอกเด็กไปกรรโชกทรัพย์ วันต่อมาโดนแบบเดิมอีก คราวนี้เด็กไม่ยอมไปแล้ว เพราะเรียนรู้แล้วว่ามันมาหลอก เราก็เหมือนกัน ช่วงที่โดนอย่าให้หมดตัว แต่พอกลับมาต้องกลับไป new high ให้ได้
7. สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
เพื่อให้มีสติในการตัดสินใจ ปล่อยวางชีวิต หนักแน่นในการใช้เหตุผล
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins-วิตามินหุ้น