COVID-19 กระทบต่อจํานวนผู้ป่วยที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่ม Medical Tourism
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ถือว่าจำนวนการแพร่ระบาดรุนแรงสุดประวัติศาสตร์และรุนแรงกว่าที่เราประเมินไว้เมื่อตอนต้นปี ซึ่งตัวเลข ณ วันที่ 23 มีนาคม 2563 ยอดผู้ป่วยสะสมในประเทศไทย อยู่ที่ 721 ราย เสียชีวิต 1 ราย ล่าสุดที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้สถานบริการ ในเขต กทม.และปริมณฑล หยุดบริการเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวคาดหายไปอย่างมีนัย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีการปิดประเทศอย่าง จีน อิตาลี บรูไน คูเวต ยูเออี ลาว ฝรั่งเศส และมาเลเซีย โดยงวดปี 2563 เราคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจะปรับลดลงราว 14%YoY ส่วนกลุ่มลูกค้าในประเทศเริ่มมีผลกระทบบ้าง จากกลุ่มลูกค้าบางส่วนที่ไม่กล้าเดินทางไปรักษา เรามองว่าโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติสูงจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่า ได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (BK:BH) (สัดส่วน 66%) กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) (BK:BDMS) (สัดส่วน 30%) บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (BK:BCH) (สัดส่วน 11%)และ เอกชัยการแพทย์ จำกัด (BK:EKH) (สัดส่วน 12%) ขณะที่ โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (BK:VIBHA) Praram 9 Hospital Public Company Ltd (BK:PR9) และโรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (BK:TNHm) มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติต่ำกว่า 5% อย่างไรก็ตามภาพรวมใน 1Q63 เราคาดยังเห็นรายได้ของกลุ่มโรงพยาบาลยังเติบโต Low single digit ก่อนที่จะปรับลดลง YoY ใน 2Q63
ปรับลดประมาณการ จํากผลกระทบ COVID-19
เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 หุ้นกลุ่ม โรงพยาบาล ภายใต้Coverage ของเรา 7 บริษัท ลงจากเดิม 15% เหลือ 11,362 ล้านบาท (-11%YoY) และต่ำกว่าประมาณการของ Bloomberg Consensus 15% โดยปรับลดประมาณการกำไร EKH ลงจากเดิม 27% เหลือ 133 ล้านบาท (-17%YoY) จากการปรับสมมติฐานรายได้ ลงจากเดิม 9% เหลือ 845 ล้านบาท และสมมุติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากเดิม 43% เหลือ 39% เนื่องจากต้องแบกภาระขาดทุนจากบริษัทลูก EKI ซึ่ง
ได้รับผลกระทบจากลูกค้าจีน ที่หายไป จากการให้บริการรักษาโลกผู้มีบุตรยาก (IVF) ขณะที่ BDMS และBCH เราปรับลดประมาณการลง 17% และ 9% จากการปรับลดรายได้ลง 11% และ 5% ตามลำดับหลักๆจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หายไป ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลที่เน้นลูกค้าในประเทศเรามีการปรับลดประมาณการลงน้อยกว่า ตามจำนวนคนไข้ไทยที่ใช้บริการลดลง ได้แก่ PR9 ปรับลดลง 14% TNH -7% ส่วน VIBHA เราคงประมาณการกำไรไว้ท่าเดิม
กลุ่มประกันสังคมจะ Outperform ได้ผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวมาชดเชย
ในปี 2563 แม้โรงพยาบาลจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยลดลง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ แต่เราคาดกลุ่มโรงพยาบาลที่รับประกันสังคมจะยังเห็นผลประกอบการเติบโต YoYเนื่องจากต้นปี ได้รับผลบวกจากการที่ประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวราว 5.6% เป็ น 3,959 บาท ต่อหัว ตามสัดส่วนรายได้ประกันสังคม RJH ที่45% รองลงมา BCH (35%) CHG (34%) LPH (33%) CMR (25%) และ VIBHA (20%) โดยคาดว่าหุ้นในกลุ่มที่รับประกันสังคมที่เรา COVER 2 บริษัทมีกำไรสุทธิยังเติบโตจากปี ก่อน ได้แก่ BCH (+10%YoY) และ VIBHA (+8% หากไม่รวมรายการเรียกคืนเงินประกันสังคมปี ก่อน กำไรปกติ+37%YoY)
คงน้ำหนักกํารลงทุน “เท่ากับตลาด” แนะนำ ซื้อ BCH และ VIBHA
แม้เราจะมีการปรับประมาณการผลประกอบการลง แต่มองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้วในเชิงกลยุทธ์ แนะนำเลือกลงทุน ในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่รับประกันสังคม ที่มีผลประกอบการที่Outperform กลุ่ม ซึ่งรับผลบวก จากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม โดยเราแนะนำ “ซื้อ” BCH (มูลค่าพื้นฐาน 18.30) และ VIBHA (มูลค่าพื้นฐาน 2.25)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities