ข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนายังคงเขย่าตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันจันทร์ การเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดหลายๆ แห่งเช่นดัชนีดาวโจนส์มีสาเหตุมาจากข่าวที่ไวรัสโคโรนาเดินทางมาถึงอิตาลีและอิหร่านได้เรียบร้อยประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ ในสถานการณ์เช่นนี้สิ่งที่ยากที่สุดคือไม่มีใครกล้าระบุตัวเลขที่ชัดเจนเพื่อประเมินความเสียหายที่แท้จริงออกมาได้ สองประเด็นความไม่ชัดเจนหลักๆ สำหรับนักลงทุนในตลาดน้ำมันคือ:
1. ผลเสียจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นกับราคาน้ำมันดิบ?
2. ผลกระทบต่อปริมาณความต้องการน้ำมันดิบมีมากน้อยเพียงใด?
คำตอบข้อแรกเราตอบได้ก่อนเลยว่าไม่มีทางรู้ได้ ส่วนข้อที่สองต้องรอดูข้อมูลอัปเดตตัวเลขจากองค์กรระดับโลกและสถาบันจัดเก็บสถิติเอกชนที่เชื่อถือได้
อนาคตของไวรัสโคโรนาที่ไม่อาจคาดเดา
นอกจากจะพยายามต่อสู้และหายาวัคซีนรักษามนุษยชาติให้ได้แล้ว เหล่าคุณหมอ นักวิทยาศาสตร์และนักระบาดวิทยายังพยายามที่จะติดตามรูปแบบการแพร่กระจายตัวของโคโรนาด้วย โดยเฉพาะเมื่อโควิด-19 สามารถแพร่ระบาดอย่างหนักในอิหร่านและสร้างผลกระทบทางตอนเหนือของอิตาลี
จากรายงานและข้อมูลการแพร่กระจายตัวที่เราได้อ่านจากสถาบันชั้นนำหลายๆ แห่งของโลกไม่ว่าจะเป็น ยุโรป อเมริกาใต้ อเมริกาเหนือพบว่ามีข้อมูลไม่ตรงกันเลย แม้แต่ในสหรัฐเองข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรคและสถาบันดูแลสุขภาพแห่งชาติยังให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
ในขณะที่โลกยังถกเถียงกันถึงข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากที่สุดความกลัวก็ยังปกคลุมและแพร่กระจายต่อไปเรื่อยๆ ทั้งในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจนตอนนี้คณะกรรมการผู้จัดงานโอลิมปิกกำลังพิจารณาว่าจะยกเลิกงานโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2020 นี้ดีหรือไม่เพราะเราไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไรกันแน่จึงจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในภาษาทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงไม่มั่นใจว่าในอนาคตไวรัสโควิด-19 นี้จะอยู่กับมนุษยชาติไปอีกนานแค่ไหนและจะทำให้มีผู้คนต้องล้มป่วยเพิ่มมากขึ้นอีกมากเพียงใดแต่ในภาษาของนักลงทุนประโยคนี้หมายความว่าความกังวลจะยังคงอยู่กับตลาดลงทุนต่อไป
ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงในสัปดาห์นี้แน่นอนว่าหลักๆ แล้วเป็นเพราะความกลัวที่มีต่อสถานการณ์โควิด-19 ถึงจะมีขาขึ้นให้เห็นบ้างแต่ก็ถูกพิจารณาว่าเป็นความพยายามเอาตัวรอดไปวันๆ ซึ่งไม่ใช่ขาขึ้นระยะยาว จนกว่าทั้งโลกจะมีข่าวยืนยันตรงกันว่าโคโรนาไวรัสมีทางรักษาแล้วจริงๆ เชื่อว่ากราฟจะยังคงสามารถปรับตัวลดลงต่อไป
นักลงทุนจะได้ทราบผลกระทบที่เกิดขึ้นในไม่ช้า
ข้อมูลบางอย่างที่อีกไม่นานเหล่านักลงทุนจะได้รู้กันแน่คือ “ไวรัสโคโรนากระทบต่อปริมาณความต้องการน้ำมันดิบอย่างไร” แม้ว่าการระบาดในประเทศจีนจะมีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสามเดือนที่แล้วแต่ตอนนั้นการแพร่ระบาดยังไม่ได้เป็นที่สนใจในระดับโลกเหมือนอย่างเช่นปัจจุบัน เมื่อต้นเดือนมีนาคมมาถึงนักวิเคราะห์จะได้ทราบข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการใช้น้ำมันดิบและจะมีภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าปริมาณความต้องการน้ำมันได้รับผลกระทบอย่างไรไปแล้วบ้าง
ประเทศจีนควรที่จะเปิดเผยข้อมูลตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบให้สาธารณชนได้รับทราบเพื่อที่องค์กรต่างๆ อย่างเช่น Platts, OPEC และ IAE จะได้นำข้อมูลไปติดตามปริมาณการขนส่งน้ำมัน การประเมินความเสียหายและนโยบายที่จะดำเนินการต่อไปได้แม่นยำขึ้น แต่ที่เท่าโลกมีข้อมูลในตอนนี้การประชุมของโอเปกและประเทศพันธมิตรในวันที่ 5-6 มีนาคมนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากว่าจากนี้ทิศทางของราคาน้ำมันจะเป็นเช่นไรต่อไป
สิ่งที่นักลงทุนเป็นกังวลและอยากทราบมากที่สุดเกี่ยวกับข่าวน้ำมันดิบคือปริมาณการใช้งานน้ำมันกับวงการธุรกิจสายการบิน ข้อมูลกิจกรรมภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงและปริมาณความต้องการน้ำมันของประเทศจีนในปัจจุบัน
โดยสรุปแล้ว…
นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากในการคาดการณ์ทิศทางราคาของน้ำมันดิบเพราะนอกจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วจีนเองยังไม่ให้ความร่วมมือกับโลกในการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นอีก อย่างไรก็ตามคำว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสสามารถใช้ได้เสมอ รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญประกอบกับการตรวจสอบข่าวที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์โควิด-19 จะช่วยสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนได้