ความกลัวต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่โคโรน่านอกจากจะส่งผลกระทบต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้วตอนนี้ความกลัวนั้นได้แพร่มาถึงตลาดราคาน้ำมันดิบเรียบร้อย
เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 3.77% ถือเป็นการปรับตัวลดลงที่มากที่สุดถ้าไม่นับการปรับตัวลดลง 4.93% ในวันที่ 2 มกราคมที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มมีความขัดแย้งกับอิหร่านในช่วงแรก ในตอนนั้นความกลัวว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจก่อนที่ไม่นานโลกจะเริ่มตั้งหลักได้และราคาน้ำมันดิบก็กลับมาวิ่งในระดับปกติ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่าในขณะที่ตลาดอื่นๆ ยังคงปรับตัวขึ้นได้ในช่วงที่ประเทศจีนเริ่มเข้ามาควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในช่วงแรกแต่กราฟสินค้าโภคภัณฑ์กลับไม่เคยปรับตัวขึ้นเลย หมายความว่านักลงทุนน้ำมันไม่เชื่อตั้งแต่แรกแล้วว่าจีนจะสามารถควบคุมไวรัสโคโรน่าไว้ได้นานอย่างนั้นหรือ?
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ความตึงเครียดในประเทศอีรักเริ่มระอุขึ้นจนส่งผลกระทบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การกระทำของกองกำลังรักษาชาติในอีรักเป็นการขัดขวางกระบวนการผลิตน้ำมันและทำให้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังน้อยลง หลังจากนั้นราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากความเป็นกังวลในระดับนานาชาติเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรน่าที่สามารถชะลอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคภาพก็แสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่านี่คือแนวโน้มขาลง
ราคาน้ำมันดิบสามารถร่วงลงทะลุเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่เดือนตุลาคมได้ ยิ่งการทะลุลงมาครั้งนี้เป็นการทะลุกรอบราคารูปธงขาขึ้น (Rising Flag) ด้วยแล้วยิ่งทำให้ราคายิ่งปรับตัวลงมาแรง นอกจากสองลักษณะการวิ่งของราคานี้แล้วยังมีการทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA ลงมาด้วยยิ่งเข้าทางแนวโน้มขาลงและทำให้นักลงทุนเชื่อในตลาดหมีได้ง่ายขึ้น
ความจริงอีกประการที่ซ่อนอยู่ในบริเวณนี้คือระดับราคา $60 คือจุดที่แรงซื้อและแรงขายคานอำนาจกันมานาน ตรงนี้คือชัยภูมิสำคัญที่นักลงทุนทั้งสองฝ่ายต่างพยายามเอาชนะให้ได้ ขาขึ้นก็พยายามรักษาแนวรับนี้ไว้ในขณะที่ขาลงก็พยายามจะเจาะแนวรับนี้ลงไปให้ได้
ในตอนนี้แนวรับถัดไปที่เป็นแนวรับจิตวิทยาสำคัญคือระดับราคาที่ $50 ถ้าแนวรับนี้ยังรับไม่อยู่จะเป็นการทะลุแนวรับใหญ่ที่มีมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2019 และผลักให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปถึงจุดต่ำสุดของราคาในเดือนธันวาคมปี 2018 ที่ $42 ต่อบาร์เรล
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่ากราฟจะกลับมาทดสอบกรอบราคารูปธงอีกครั้งและแท่งที่กลับมาทดสอบอย่างน้อยแต่เป็นแท่งขาขึ้นยาวหนึ่งแท่ง ทันทีที่เห็นแท่งสีแดงเกิดขึ้นหลังจากแท่งขาขึ้นค่อยวางคำสั่งขาย
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง รอการดีดกลับของราคาที่สามารถเข้าใกล้แนวต้านได้มากที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องรอสัญญาณยืนยันการกลับตัวที่แนวต้าน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจลองสวนเทรนด้วยการวางคำสั่งซื้อสั้นๆ พวกเขาจะรอดูแท่งเทียนขาขึ้นที่วิ่งกลับอย่างน้อย 2-3 แท่งจากที่ราคาได้ทะลุกรอบลงมา สาเหตุที่ขาขึ้นสั้นๆ ยังเป็นไปได้เพราะเรามองเห็นแท่งเทียนรูปค้อน (Hammer Pattern) ที่เป็นสัญลักษณ์ของขาขึ้น ก่อนที่จะเล่นตามเทรนและวางคำสั่งขายตามแนวโน้มหลักลงมา
ตัวอย่างการเทรด (สำหรับคนที่ต้องการสวนเทรน)
- จุดเข้า: $56
- Stop-Loss: $55.50
- ความเสี่ยง: $0.50
- เป้าหมายในการทำกำไร:$57.50
- ผลตอบแทน: $1.50
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3