รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

หุ้น 3 ตัวที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้: McDonald’s, Intel และ Ford

เผยแพร่ 21/10/2562 14:03
US500
-
DJI
-
IXIC
-

ตั้งแต่บริษัทต่างๆ เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสในสัปดาห์นี้ออกมานั้น นักลงทุนก็สบายใจไประดับหนึ่งว่ายังไม่มีสัญญาณอันตรายใดๆ จากบริษัททางฝั่งอเมริกาปรากฎออกมาให้เห็นเลย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ทั้งสามตัว ทั้ง S&P 500, ดาวโจนส์ และ NASDAQ ต่างปรับขึ้นไปอยู่ในระยะห่างจากสถิติสูงสุดที่เคยทำได้ในเดือนกรกฎาคมเพียงไม่ถึง 3% อันเป็นผลมาจากรายงานผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่ซึ่งยังคงออกมาดี

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งมีค่อนข้างสูง แม้ว่าจะเป็นช่วงที่หลายฝ่ายยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หากบริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ ยังคงสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ต่อไป และยิ่งหากสหรัฐฯ และจีนกำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้ ตลาดหุ้นก็น่าจะเป็นแรงผลักดันให้ตลาดพุ่งขึ้นต่อได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

หุ้น 3 ตัวที่เราเห็นว่าควรจับตามองในช่วงนี้ มาจากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มเทคโนโลยี มีดังต่อไปนี้

1. McDonald’s

McDonald’s (NYSE:MCD) บริษัทเครือข่ายธุรกิจด้านอาหารและเจ้าของแฟรนไชส์ระดับโลกรายนี้กำลังเตรียมที่จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ออกมาในวันอังคารที่ 22 ตุลาคมนี้ ช่วงก่อนเปิดตลาด นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าบริษัทจะทำกำไรได้ $2.21 ต่อหุ้น โดยมียอดขายอยู่ที่ 5.49 พันล้านเหรียญ

MCD Weekly TTM

กราฟราคาหุ้น MCD รายสัปดาห์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด

หลังจากที่หุ้นของบริษัทฟื้นตัวขึ้นมาได้ในตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา หุ้นของ McDonald's ก็เริ่มส่งสัญญาณว่าจะเริ่มอ่อนแรงลง โดยไปปิดตลาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ $208.50 โดยหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาอยู่เล็กน้อยเนื่องจากยังไม่ค่อยมีคนกล้าลงทุนในช่วงนี้เท่าใดนัก

ถึงแม้ว่าหุ้นจะไม่ได้มีการปรับตัวที่โดดเด่นนัก แต่ MCD ก็พิสูจน์ตนเองได้จาก ผลการดำเนินงานในผลงาน ในไตรมาสที่ผ่านมาได้ว่าการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในองค์กรนั้นช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน บริษัทธุรกิจเครือข่ายอาหารรายนี้สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว

ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ๆ อย่างเช่นการมีอาหารเช้าให้บริการตลอดทั้งวัน ซึ่งประกอบไปด้วยแม็คมัฟฟินเป็นสินค้าหลัก รวมทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างโดนัทสติ๊กก็เป็นตัวช่วยดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการได้มากขึ้น หากบริษัทยังสามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามีจำนวนลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น และเทคโนโลยีที่ได้ลงทุนไปเริ่มให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากลับมา หุ้นของบริษัทก็จะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในเร็วๆ นี้

2. Intel

บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Intel (NASDAQ:INTC) กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงที่กำลังจะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมาในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคมนี้ หลังปิดตลาด นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทเทคโนโลยีใหญ่รายนี้จะทำกำไรได้ $1.23 ต่อหุ้น และน่าจะมียอดขายอยู่ที่ 18,020 ล้านเหรียญ

INTC Weekly TTM

กราฟราคาหุ้นของ INTC รายสัปดาห์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด

จากการรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุด Intel ยังคงทำผลงานได้ ดีเกินคาด ทั้งยอดขายและกำไร รวมทั้งยังปรับตัวเลขที่คาดการณ์ของไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งก็น่าจะแสดงให้เห็นว่าบริษัทผู้ผลิตชิปรายนี้เชื่อว่าตนน่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 Intel ยังมียอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและชิปคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ที่มีราคาสูงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

นักลงทุนต่างก็เฝ้าตั้งตารอดูว่าบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากเมืองซานตาคลารา ในรัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้จะสามารถรักษากำลังซื้อในไตรมาสที่ 3 ให้สูงได้ต่อไปหรือไม่ นอกจากนี้หลายคนก็ยังอยากรู้ด้วยว่าบริษัทจะคาดการณ์สถานการณ์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ต่อไปอย่างไร

หุ้นของ Intel ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ $51.36 ซึ่งถือว่าทำผลงานสู้ดัชนี S&P 500 ในปีนี้ยังไม่ได้ เนื่องจากหลายฝ่ายยังกังวลว่าสงครามการค้าอาจทวีความรุนแรงขึ้น และจีนซึ่งถือเป็นตลาดเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ก็อาจได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีที่เพิ่มสูงขึ้น และเราจะได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อบริษัทประกาศผลประกอบการออกมาในสัปดาห์นี้

3. Ford Motor

บริษัท Ford (NYSE:F) จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมาในวันพุธที่ 23 ตุลาคมนี้หลังปิดตลาด ท่ามกลางสภาวะที่ตลาดยานยนต์ในอเมริกากำลังเผชิญสภาวะกำลังซื้อถดถอย นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะทำกำไรได้ $0.26 ต่อหุ้น โดยมียอดขาย 36,860 ล้านเหรียญ

Ford Weekly TTM

กราฟราคาหุ้น Ford รายสัปดาห์ในช่วง 12 เดือนล่าสุด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่ Ford ต้องประสบกับความยากลำบากอยู่พอสมควร หลังจากที่ก่อนหน้านั้น ยอดขายยังสูงขึ้นได้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อจากผู้บริโภคทั่วโลกยังคงมีสูง แต่ปัจจุบัน Ford ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ซึ่งก็คือการพยายามปรับโครงสร้างภายในมูลค่า 11,000 ล้านเหรียญหลังจากที่รายได้สุทธิปรับลดลงไปมากกว่าครึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการซื้อรถเก๋งเริ่มเกิดการชะลอตัวลง

การพยายามพลิกสถานการณ์ในครั้งนี้รวมไปถึงการปรับลดการจ้างพนักงานลงหลายพันตำแหน่ง การปิดโรงงานในต่างประเทศ รวมทั้งการก่อสร้างโรงงานสร้างรถยนต์ไฟฟ้าและรถไร้คนขับแห่งใหม่ ในขณะที่ Ford กำลังดำเนินการดังกล่าว หุ้นของบริษัทจึงต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน ทำให้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาราคาหุ้นของบริษัทปรับลดลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ $10 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นของ Ford ไต่ขึ้นไปได้ 2% และไปปิดตลาดที่ระดับ $9.29 ต่อหุ้น

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย