โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2019
ในที่สุด ความหวังที่จะเห็นตลาดฟื้นตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 ก็ต้องมลายไปกับรายงานตัวเลขดัชนีนอกภาคการผลิตของ ISM ที่ประกาศออกมาในวันพฤหัสบดี นักลงทุนไม่ควรหลอกตัวเองอีกต่อไปว่าสหรัฐฯ จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากที่เราได้เห็นไปก่อนหน้านี้แล้วว่าตัวเลขอุตสาหกรรมภาคการผลิต เกิดการหดตัวลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี ISM ยังรายงานว่าดัชนีอุตสาหกรรมในภาคบริการก็อ่อนตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาด้วยเช่นกัน ธุรกิจในอเมริกากำลังประสบปัญหาจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจและสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้น สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือ แม้ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกจะทยอยใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินแล้วก็ตาม เศรษฐกิจก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ดังนั้นนักลงทุนจึงเริ่มที่หันเหความสนใจจากปริมาณการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่จะประกาศในวันศุกร์ไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้แทนเพื่อดูว่าจะมีการตัดสินใจดำเนินการใดต่อไปอีก
หากรายงานตัวเลขอ่อนค่าลงเหมือนกับรายงานของ ISM เมื่อวันพฤหัสบดี ดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนพันธบัตร และตลาดหุ้นก็น่าจะพากันปรับตัวลดลง จากที่เราได้เห็นไปแล้วว่าตลาดหุ้นร่วงลงไปกว่า 800 จุดหลังจากที่มีการประกาศตัวเลขจาก ADP และข้อมูลในอุตสาหกรรมภาคการผลิตที่ไม่เป็นไปตามเป้าออกมาเมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา แม้ว่าตัวเลขนอกภาคการผลิตของ ISM จะเป็นรายงานที่ค่อนข้างมีความสำคัญ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดแรงขายดอลลาร์สหรัฐออกมามากอย่างที่คิด ทั้งหมดนี้ทำให้ทราบว่านักลงทุนยังมีความหวัง แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานจะออกมาไม่สวยนัก เนื่องจากยังคงเชื่อมั่นว่าเฟดไม่น่าจะมีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในปีนี้
ตลาดสัญญาซื้อขายอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสหรัฐฯ มีความเชื่อมั่น 87% ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 30 ตุลาคม และเชื่อมั่น 96% ว่าจะมีการปรับลดก่อนวันที่ 11 ธันวาคม คณะกรรมการนโยบายการเงินอาจไม่เคยคาดคิดหรือเตรียมตัวรับสถานการณ์ตลาดที่ดูดุดันเช่นนี้มาก่อน เมื่อครั้งที่ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันเดือนกันยายน มีคณะกรรมการจำนวน 2 คนที่เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิมเอาไว้ และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกในปีนี้ แต่ปัญหาสำหรับตอนนี้ก็คือรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของเดือนนี้จะเปลี่ยนใจคณะกรรมการจำนวนหลายคนได้ไหม แม้ว่าในปีนี้อุตสาหกรรมภาคการผลิตจะชะลอตัวลงเป็นส่วนใหญ่ แต่ตัวเลขของภาคบริการในเดือนสิงหาคมก็สูงมากพอที่จะทำให้นายพาวเวลล์ ประธานเฟดเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังแข็งแรงต่อไปได้ แต่ในทางกลับกัน นักลงทุนกลับปล่อยให้ดอลลาร์สหรัฐทิ้งตัวดิ่งลงต่อไปเพราะยังเชื่อว่าเมื่อธนาคารกลางเห็นตัวเลขในรายงานดังกล่าวแล้วก็น่าจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้อีกเป็นครั้งที่สามอย่างแน่นอน
ผู้ที่ยังหวังว่าดอลลาร์จะปรับตัวลดลงนั้นยังคงรอคอยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรอย่างใจจดใจจ่อ และแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จะคาดว่าตัวเลขการจ้างงานจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่นักลงทุนก็ยังหวังจะเห็นตัวเลขที่แย่ลง ความคิดเห็นของผู้ที่เชื่อว่าตัวเลขรายงานดังกล่าวจะแย่ลง มีสาเหตุมาจากการจ้างงานในภาคบริการที่ยังคงที่ ในขณะที่ภาคการผลิตปรับลดการจ้างงานลงเร็วที่สุดในรอบ 5 ปีจากรายงานของ ISM นอกจากนี้ ADP ยังรายงานออกมาด้วยว่าการจ้างงานในภาคเอกชนก็มีน้อยลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก Conference Board ก็ลดลงตามไปด้วย ปริมาณ การเลิกจ้าง ที่รายงานออกมาโดย Challenger และ ผลสำรวจจาก UMich ก็ไม่ดีพอที่จะมาชดเชยตัวเลขความเสียหายในรายงานอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์กันไว้ว่า การเติบโตของค่าจ้างก็จะยังชะลอตัวเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยหากจะเห็นอัตราการว่างงานสูงขึ้น
การเตรียมตัวรับมือกับรายงานที่จะออกมาแย่กว่าเดิมนั้นอาจพอช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงความผันผวนของรายงานนี้แล้วคาดว่าจะมีความเสี่ยงไม่มากนัก หากตัวเลขการจ้างงานเติบโตขึ้นได้น้อยกว่า 140,000 ตำแหน่ง และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มขึ้นได้เพียง 0.2% อาจทำให้ดอลลาร์ร่วงต่อลงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะทำให้ USD/JPY ปรับตัวลงไปอยู่ต่ำกว่า 106 อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขรายงานที่ออกมาทำให้เกิดการคาดการณ์ต่อไปได้ว่าน่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกรอบ ดอลลาร์ก็จะถีบตัวสูงขึ้นมาได้ ส่วนตลาดหุ้นนั้นน่าจะตอบสนองกับตัวเลขในทางบวกมากกว่า แต่หากนักลงทุนเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่จำเป็นก็อาจตอบสนองกับตัวเลขที่จะออกมาในทางลบได้เช่นกัน
ตัวชี้วัดที่มีโอกาสเป็นไปได้สำหรับปริมาณการจ้างงานนอกภาคการเกษตร
ความคิดเห็นของผู้ที่เชื่อว่าตัวเลขการจ้างงานจะ ดีขึ้น
1. มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สูงขึ้น
2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ลดต่ำลง
3. Challenger รายงานว่า การเลิกจ้าง ลดลง 24.8%
ความคิดเห็นของผู้ที่เชื่อว่าตัวเลขการจ้างงานจะ แย่ลง
1. ดัชนี การจ้างงานนอกภาคการผลิต จาก ISM ปรับลดลงไปต่ำสุดในรอบ 5 ปี
2. ตัวเลขปริมาณการจ้างงานของ ADP ปรับลดจาก 157,000 ไปเป็น 135,000 ตำแหน่ง
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลงไปมากที่สุดในรอบ 9 เดือน
4. ดัชนี การจ้างงานในภาคการผลิต จาก ISM ปรับลดลงไปต่ำสุดในรอบ 3 ปี
5. จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในรอบ 4 สัปดาห์ ลดต่ำลง