โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2019
ดอลลาร์สหรัฐ ยังคงแข็งค่าขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ปริมาณการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่รายงานออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาช่วยให้ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นได้เป็นวงกว้าง และในระหว่างที่ยังไม่มีรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มเติมในวันจันทร์และวันอังคาร ดอลลาร์ก็ยังคงปรับตัวขึ้นต่อได้เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอฟังปัจจัยเร่งตัวอื่นๆ ที่จะตามมาจากการแสดง ความคิดเห็น เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินรอบครึ่งปีของนายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในรอบสัปดาห์เลยก็ว่าได้ ที่จะเป็นตัวกำหนดความต้องการของเงินดอลลาร์ และไม่จะส่งผลเฉพาะในสัปดาห์นี้ แต่ยังจะกระทบไปจนถึงช่วงก่อนการจัด การประชุมของคณะกรรมการนโยบายทางการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ด้วย ก่อนหน้าการประกาศตัวเลขการจ้างงานออกมา ตลาดซื้อขายอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงล่วงหน้า เชื่อว่า มีโอกาส 75% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนนี้ และ 25% เชื่อว่าจะมีการปรับลงครึ่งจุด แต่ในวันนี้ตลาดเชื่อว่ามีโอกาสถึง 95% ที่จะมีการปรับลดในเดือนกรกฎาคม และ 80% เชื่อว่าจะมีการปรับลดอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม
ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับนายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และคณะกรรมการทั้งหมดที่จะต้องออกมาชี้แจงในสัปดาห์นี้ก็คือ เมื่อมีรายงานตัวเลขด้านปริมาณการจ้างงานล่าสุดปรากฏออกมาเช่นนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมยังจะมีความจำเป็นอยู่จริงหรือ จากการประชุมนโยบายทางการเงินครั้งที่แล้ว เฟดชี้แจงอย่างชัดเจนว่าการที่จะตัดสินใจใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินหรือไม่นั้นยังจำเป็นต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบ หลังจากการประชุมในครั้งนั้น ตัวเลขปริมาณการจ้างงานก็เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ อัตราการว่างงาน ก็ยังเพิ่มขึ้นและการเติบโตของค่าจ้างลดลง ส่วน ยอดขายบ้าน ยังมีทิศทางที่ไม่แน่นอน ดัชนีความเชื่อมั่น ลดต่ำลงจากการชะลอตัวของภาค อุตสาหกรรมการผลิต และภาค บริการ ดังนั้นนอกเหนือจากตัวเลขการจ้างงานแล้ว ตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐฯ ยังคงแย่ลง รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญอีกตัวหนึ่งของเฟดมีกำหนดที่จะประกาศออกมาในวันพฤหัสบดีนี้ แต่นายพาวเวลล์ก็คงจะได้เห็นตัวเลขทั้งหมดก่อนการขึ้นแถลงอยู่แล้ว
เมื่อพิจารณาท่าทีโดยรวมจาก การแถลงของ FOMC ครั้งล่าสุด ประกอบกับระยะเวลาที่ผ่านมานับจากการแถลงในการประชุมครั้งที่แล้ว เราเชื่อว่าในการออกมาแถลงที่ Capitol Hill ในครั้งนี้ นายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะแบ่งเวลาช่วงหนึ่งมาชี้แจงว่าเหตุใดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางจึงเริ่มมีความคิดที่จะนำนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาใช้ เมื่อย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งและเฟดยังมีความคิดที่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอยู่ นายพาวเวลล์ออกมากล่าวว่าตัวเลขการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจยังดีอยู่ แต่ในเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางกลับคืนคำพูดของตัวเองที่เคยบอกว่าจะใช้ความอดทน และแถลงว่ายังมีความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้อีกมาก รวมทั้งเห็นว่ามีสมาชิกในคณะกรรมการถึง 8 คนที่พยากรณ์ว่าจะมีการ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลงในปีนี้
แม้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมอาจจะเกิดขึ้นได้จริง แต่การเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐชี้ว่านักลงทุนได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการแถลงในเชิงลบของนายพาวเวลล์ในวันพุธนี้แล้ว โดยนักลงทุนคาดว่าตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าที่คาดน่าจะสามารถเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปจนถึงเดือนกันยายน หรือไม่ก็อาจทำให้ธนาคารกลางเชื่อมั่นว่าการปรับลดในเดือนกรกฎาคมเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอสำหรับปีนี้แล้ว หากความคิดเห็นของนายพาวเวลล์ออกมาในทิศทางที่ดี USD/JPY น่าจะทะลุระดับ 109 ได้ ส่วน EUR/USD ก็น่าจะดิ่งลงไปต่ำกว่า 1.12 แต่หากประธานเฟดใช้เวลาส่วนมากในการแถลงครั้งนี้เพื่อชี้แจงปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและวิเคราะห์สาเหตุของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจแล้วล่ะก็ USD/JPY น่าจะเกิดการพลิกกลับและร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่า 107.50 ส่วน EUR/USD ยังน่าจะดีดกลับมาอยู่เหนือระดับ 1.13 ได้ แต่สกุลเงินที่จะปรับตัวขึ้นได้มากที่สุดน่าจะเป็นฟรังก์สวิสและดอลลาร์นิวซีแลนด์
สกุลเงินที่อ่อนค่าลงไปมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมาคือ เยนญี่ปุ่น และ ฟรังก์สวิส ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเนื่องจากเป็นสกุลเงินที่มีความอ่อนไหวไปตามความต้องการ ดอลลาร์สหรัฐ อยู่แล้ว เงิน ยูโร ที่เคยปรับตัวลดลงเริ่มได้รับแรงหนุนจากตัวเลข การผลิตในภาคอุตสาหกรรม ของเยอรมนีที่อ่อนตัวลงกว่าที่คาดไว้ ส่วนสกุลเงินที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุดคือ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งยังทรงตัวอยู่ได้หลังจากที่ปรับลดลงไปเมื่อวันศุกร์ และเนื่องจากในช่วง 24 ชั่วโมงต่อจากนี้จะยังไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติมออกมา ดังนั้นจึงน่าจะมีเพียงการแถลงของนายพาวเวลล์เท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดต่อไป