IMF ปรับลด GDP Growth ไทยปี 2564 จาก 2.7% เป็น 2.6% แต่ปรับเพิ่ม ปี 2565 จาก 4.6% เป็น 5.6% ภาพยังถือว่ามีน้ําหนักในทางบวก ส่วนเรื่อง ที่ต้องระวังได้แก่ การกลับมาเพิ่มจํานวนของผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศ พอร์ตจําลอง ได้ขายทํากําไร CENTEL วันนี้ให้ลดน้ําหนัก INTUCH 5%% แล้วลงทุนใน STGT 10% Top Pick เลือก STEC และ STGT
ประเด็นเรื่อง Covid-19 กลับมาสร้างแรงกดดัน แต่น่าจะเป็นระยะสั้น IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ World GDP ปี 2564 ขึ้นจากเดิม 5.5% เป็น 6% โดยประเทศที่ ปรับขึ้นแรงได้แก่ สหรัฐฯ และอินเดีย ส่วนกลุ่มประเทศอเชียนถูกปรับลดประมาณการปี 2564 ลง แต่ปรับเพิ่มปี 2565 ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเสี่ยงเรื่อง Covid-19 ที่มีการ กระจายวัคซีล่าช้า และพึ่งพิงภาคการท่องเที่ยงในสัดส่วนที่สูง สําหรัประเทศไทยถูกปรับ ลดคาดการณ์ปี 2564 ลงจาก 2.7% มาอยู่ที่ 2.6% (เท่ากับประมาณการของฝ่ายวิจัย) แต่ ปรับเพิ่มปี 2565 เป็น 5.6% จากเดิม 4.6% โดยภาพรวมยังให้ภาพการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจจึงไม่น่าจะเห็นผลกระทบเชิงลบ ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในบ้านเรา ได้แก่เรื่อง การระบาดของ Covid-19 ที่กลับมาเพิ่มขึ้นในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมาณฑล โดยมี ศูนย์กลางมาจากสถานบันเทิงต่างๆ อีกทั้งในสัปดาห์หน้ายังเป็นวันหยุดยาว ซึ่งจะเห็นการ เดินทางข้ามพื้นที่มากกว่าปกติ หากกลับมาเกิดการติดเชื้อขยายวงอีกครั้งก็จะเป็นปัจจัยที่ สร้างแรงกดดันต่อ SET Index แต่หากผ่านช่วงเวลานไปด้วยดี ตลาดก็น่าจะกลับมาสดใส พอร์ตจําลอง วันจันทร์ที่ผ่านมา ได้ขาย CENTEL รับรู้กําไร 4.41% ส่วนวันนี้ให้ลดน้ําหนัก INTUCH ลง 5% แล้วเข้าลงทุนใน STGT 10% Top Pick เลือก STEC และ STGT
SET Index ปรับฐานช่วงสั้นในช่วงการระบาด CovID-19 จ.สมุทรสาคร
IMF ปรับ World GDP ขึ้นตามคาด บวกกับตลาดหุ้นโลก และไทย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานประมาณการเศรษฐกิจโลกโดยมี มุมมองเชิงบวกตามที่คาด ดังนี้ โดย WordGDP Growth IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ ปี 2554-2565 ขึ้น 0.5% และ0.25% จากรอบ ม.ค. 64 ขยายตัวอยู่ ที่ 6.0% และ 4.4% ตามลําดับ และปรับเพิ่มปริมาณการค้าโลก (World Trade Volume ปี 2564-2565 ขึ้น 0.3% และ 0.29% อยู่ที่ 8.4% และ 6.5% ตามลําดับ หาก พิจารณารายโซนกลุ่มประเทศ (ดังรูป) พบว่า
(+) ประเทศพัฒนาแล้ว เกือบทุกประเทศมุมมองที่ดีมาจาก 1. การทยอยฉีดวัคซีนใน หลายๆ ประเทศทั่วโลกมีความคืบหน้ามากกว่าคาด 2.)มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ 1.9 ล้านล้านเหรียญ หากพิจารณาประมาณการรายประเทศ หลักๆ คือ สหรัฐเป็นประเทศที่ IMF มีมุมมองบวกมากสุด ปรับเพิ่ม GDP Growth ปี 64-65 ขึ้น 1.3% และ 1% จาก รอบ ม.ค. 64 ขยายตัวอยู่ที่ 6.49% และ 3.5% รองมาคือ อังกฤษ, ยุโรป และญี่ปุ่น
(+) ประเทศเอเชีย อาทิ จีน ปรับเพิ่ม 0.3% ในปี 2564 คาตขยายตัว 8.4% และปี 2565 คาดทรงตัว 5.59% รวมถึงอินเดีย ปรับพิ่มทั้งปี 2554-2565 ขึ้น 19% และ 0.1% คาด ขยายตัว 12.596และ 6.99% ตามลําดับ อย่างไรก็ตามประเทศในกลุ่ม ASEAN เกือบทุกประเทศ IMF มีมุมมองชะลอเมื่อเทียบ กับรอบที่แล้วในปี 2564 เนื่องจากประเทศที่พึ่งพาภาคการท่องเที่ยวสัดส่วนสูง การรับ วัคซีนไม่ชะลอเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อาทิ ไทย (IMF คาดเหลือ 2.6% จาก รอบที่แล้วคาด 2.7% ใกล้เคียง ASPS คาด และอยู่ในกรอบที่ Consensus ประเมิน 2.5" 3%) แต่หากมองไปปี 2565 IMF ปรับเพิ่มไทย 1% ขยายตัว 5.5%
โดยรวม ASPS ประเมินการปรบเพิ่ม GDP Growth ของ IMF ถือเป็นการตอกยาความเชื่อวงจรการ Upgrade GDP ถือเป็น Sentiment เชิงบวกตอตลาดหุ้นทั่วโลกและหุ้นไทย
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities