🤑 ราคาไม่ได้ถูกมากไปกว่านี้แล้ว รับเลยส่วนลด Black Friday 60% ก่อนที่จะหมดเขต….รับส่วนลด

น้ำมันพุ่งกว่า 1% หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าชดเชยความกังวลเรื่องโควิดของจีน

เผยแพร่ 01/11/2565 15:21
อัพเดท 01/11/2565 15:39
© Reuters.

Investing.com - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันอังคาร โดยขึ้นมาเท่ากับส่วนที่ขยับลงไปจากช่วงก่อนหน้า เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงได้ชดเชยมาตรการควบคุมโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นในจีน ทำให้เกิดความกลัวว่าอุปสงค์น้ำมันจะชะลอตัวในกลุ่มผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ สำหรับเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์หรือ 1.7% เป็น 94.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเวลา 07.18 GMT สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของเดือนธันวาคมปิดการขายเมื่อวันจันทร์ที่ 94.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลโดยลดลง 1%

ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.38 ดอลลาร์หรือ 1.6% เป็น 87.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 1.6% ในช่วงก่อนหน้า

เกณฑ์มาตรฐานน้ำมันทั้งน้ำมันดิบเบรนท์ และ WTI ปิดสูงขึ้นในเดือนตุลาคม โดยเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หลังจากที่องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรรวมถึงรัสเซียกล่าวว่าพวกเขาจะลดการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd)

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวันอังคารจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ  เนื่องจากเทรดเดอร์ชั่งน้ำหนักโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนปรนนโยบายการเงินในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้

ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้น้ำมันราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น และมักจะสะท้อนถึงความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องการมากขึ้น

OPEC เพิ่มการคาดการณ์สำหรับความต้องการน้ำมันของโลกในระยะกลางและระยะยาวในวันจันทร์โดยกล่าวว่าจำเป็นต้องมีการลงทุน 12.1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้แม้จะเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน

มาตรการควบคุมโรคโควิด19 ในจีน ส่งผลให้ต้องปิดสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในเซี่ยงไฮ้ชั่วคราวเมื่อวันจันทร์ และสร้างความกังวลเรื่องความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลงของผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก ขณะที่ยังคงดำเนินการนโยบายปลอดโควิด

การจำกัดการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดทำให้กิจกรรมโรงงานของจีนลดลงในเดือนตุลาคม และยังกระทบถึงการนำเข้าจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ลดลง

จากการตรวจสอบราคาน้ำมัน ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 12 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโควิด19 แม้ว่าบริษัทหินดินดานจะกล่าวว่าพวกเขาไม่คาดว่าการผลิตจะเร่งตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. ที่ประมาณ 300,000 บาร์เรล และจากการสำรวจของรอยเตอร์สเบื้องต้นพบว่า ขณะที่สินค้าคงคลังน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินคาดว่าจะลดลง

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย