ESTERO, Fla. - Hertz Global Holdings, Inc. (NASDAQ: HTZ) ผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาดรถเช่าทั่วโลกเปิดเผยความตั้งใจที่จะออกหนี้ 750 ล้านดอลลาร์ผ่าน บริษัท ย่อย The Hertz Corporation ข้อเสนอนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด รวมถึง First Lien Senior Secured Notes มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ และ PIK Notes ที่มีหลักประกัน Senior Second-Lien Secured มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งคู่จะครบกําหนดในปี 2029
นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ CK Amarillo LP มุ่งมั่นที่จะซื้อธนบัตรที่แลกเปลี่ยนได้สูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ในขณะที่ภาระผูกพันแบ็คสต็อปสําหรับ First Lien Notes ได้รับการค้ําประกันในจํานวนเดียวกัน เงินที่ได้จะจัดสรรสําหรับการลดวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนมูลค่า 2.0 พันล้านดอลลาร์ของ Hertz Corp. เพื่อเสริมสภาพคล่อง การถวายไม่ได้พึ่งพาซึ่งกันและกันเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์
ตั๋วแลกเงินที่มีดอกเบี้ย PIK มีกําหนดชําระเงินทุกครึ่งปีตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2024 โดยราคาแลกเปลี่ยนเริ่มต้นอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของราคาหุ้นเฉลี่ย ณ วันที่กําหนดราคา โดยจํากัดไว้ระหว่าง 6.00 ถึง 7.00 ดอลลาร์ต่อหุ้น เงื่อนไขรวมถึงอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างการเจรจา
ความสามารถในการแลกเปลี่ยนธนบัตรเหล่านี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและกรอบเวลาเฉพาะ โดยสามารถแลกเปลี่ยนได้เต็มรูปแบบใกล้ครบกําหนดในเดือนมิถุนายน 2029 ในกรณีที่มี 'การเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน' ผู้ถือสามารถเรียกร้องให้ซื้อคืนที่เงินต้นเริ่มต้นบวกดอกเบี้ย PIK ค้างรับ
First Lien Notes และ Exchangeable Notes จะได้รับการค้ําประกันโดย Hertz Global Holdings และบริษัทย่อยในประเทศอื่นๆ โดยบริษัทเดิมมีหลักประกันเดียวกันกับวงเงินสินเชื่อรายแรกของ Hertz Corp. ตั๋วแลกเงินจะจัดลําดับจูเนียร์ให้กับ First Lien Notes และหนี้ที่มีหลักประกันอื่น ๆ
ข้อเสนอเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้เฉพาะผู้ซื้อสถาบันที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและสําหรับตั๋วแลกเงินบางรายการที่ไม่ใช่ของสหรัฐอเมริกา บุคคลตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ พวกเขาจะไม่ได้รับการจดทะเบียนต่อสาธารณะในสหรัฐอเมริกา โดยจํากัดการขายภายในประเทศโดยไม่ต้องลงทะเบียนหรือได้รับการยกเว้นที่เกี่ยวข้อง
Hertz Corporation ภายใต้ Hertz Global Holdings ดําเนินการแบรนด์ให้เช่าหลายแห่งทั่วโลก และยังประกอบธุรกิจขายรถยนต์และบริการแบ่งปันรถยนต์อีกด้วย
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Hertz Global Holdings กําลังพิจารณาการขายหนี้ที่มีหลักประกันอย่างน้อย 700 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสั่นคลอนทางการเงิน Scott Haralson CFO คนใหม่ของบริษัท ซึ่งเดิมเป็น Spirit Airlines คาดว่าจะเป็นแนวทางในกลยุทธ์นี้ สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Hertz รายงานการขาดทุนรายไตรมาสอย่างมีนัยสําคัญที่ 1.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 44 เซนต์
บริษัทรถเช่ายังวางแผนที่จะปลดรถยนต์ประมาณ 30,000 คัน เนื่องจากความต้องการที่ขาดความดแจ่มใสและค่าซ่อมที่สูงจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า นอกเหนือจากการพัฒนาเหล่านี้แล้ว BofA Securities ยังคงอันดับเครดิต Underperform ของ Hertz ด้วยราคาเป้าหมายคงที่ที่ $3.00 หลังจากการวิเคราะห์สภาพคล่องที่ครอบคลุม การประเมินนี้ชี้ให้เห็นว่าเฮิรตซ์อาจเผชิญกับการสูญเสีย EBITDA อย่างมีนัยสําคัญประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ในปี 2024
นอกจากนี้ Deutsche Bank ได้ปรับลดราคาเป้าหมายสําหรับ Hertz เป็น $4.80 จาก $6 ในขณะที่ยังคงอันดับเครดิต Hold ธนาคารอ้างถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของราคาและกองเรือกับความจําเป็นในการลดค่าใช้จ่าย สุดท้ายนี้ BofA Securities ได้ปรับลดอันดับหุ้นของ Hertz จาก Neutral เป็น Underperform และปรับลดราคาเป้าหมายจาก $9.00 เป็น $3.00 หลังจากผลประกอบการไตรมาสแรกที่น่าผิดหวังสําหรับปี 2024
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
จากการประกาศการออกตราสารหนี้ล่าสุดของ Hertz Global Holdings, Inc. (NASDAQ: HTZ) การพิจารณาสถานะทางการเงินของบริษัทอย่างใกล้ชิดผ่านตัวชี้วัด InvestingPro เผยให้เห็นความท้าทายและโอกาสบางประการ เฮิรตซ์ดําเนินงานด้วยภาระหนี้ที่สําคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในการเคลื่อนไหวเชิงรุกเพื่อจัดการสภาพคล่องและลดการพึ่งพาวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน ฝ่ายบริหารของบริษัทได้ซื้อหุ้นคืนอย่างแข็งขัน ซึ่งเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นในมูลค่าของบริษัทแม้ว่าจะมีการปรับโครงสร้างทางการเงินก็ตาม
InvestingPro Data ให้ภาพรวมของการประเมินมูลค่าและผลการดําเนินงานของบริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับปรุงแล้วของ Hertz อยู่ที่ 944.96 ล้านดอลลาร์ โดยมี Price / Book multiple ที่ต่ําอย่างเห็นได้ชัดที่ 0.34 ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 สิ่งนี้อาจบ่งชี้ว่าสินทรัพย์ของบริษัทมีมูลค่าต่ําเกินไปในตลาด นอกจากนี้ อัตราส่วน P/E ของ Hertz อยู่ที่ 5.31 ซึ่งลดลงเหลือ 4.04 ที่ปรับปรุงแล้วเมื่อพิจารณาช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 ซึ่งบ่งชี้ว่าหุ้นอาจมีการซื้อขายที่กําไรต่ําเมื่อเทียบกับความสามารถในการทํากําไร
แม้จะมีตัวชี้วัดการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจเหล่านี้ แต่การเงินของ Hertz ก็แสดงสัญญาณของความเครียดเช่นกัน โดยมีการเติบโตของรายได้ 5.4% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 และการเติบโตของรายได้รายไตรมาสที่เจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้นที่ 1.61% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 อัตรากําไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 12.56% ซึ่งอาจเป็นจุดที่น่ากังวลเมื่อจับคู่กับ InvestingPro Tip ที่ Hertz ประสบปัญหาอัตรากําไรขั้นต้นที่อ่อนแอ
สําหรับนักลงทุนที่ต้องการเจาะลึกถึงโอกาสทางการเงินของ Hertz มีเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติม เช่น ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของบริษัทในการชําระดอกเบี้ยสําหรับหนี้ และศักยภาพที่รายได้สุทธิจะลดลงในปีนี้ ด้วยเคล็ดลับ InvestingPro ทั้งหมด 25 ข้อ นักลงทุนสามารถเข้าใจความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับ Hertz ได้อย่างครอบคลุม หากต้องการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้และอื่นๆ ให้พิจารณาใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดเพิ่มเติม 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro และ Pro+ รายปีหรือรายปักษ์ที่ InvestingPro
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน