เรียลบราซิลอ่อนค่าลงอย่างมาก โดยลดลง 1.6% พลาดการพุ่งขึ้นของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ผลการดําเนินงานของเงินเรียลในสัปดาห์นี้ถือเป็นระดับที่แย่ที่สุดในบรรดาประเทศกําลังพัฒนา โดยลดลงเกือบ 5% ETF ที่สะท้อนถึงหุ้นบราซิลยังร่วงลง 4.6% ก่อนเปิดตลาดในนิวยอร์ก ซึ่งพร้อมที่จะขยายการขาดทุน 3.8% จากเซสชั่นจนถึงวันพุธก่อนหน้า
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์ของบราซิลลดลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของประเทศและการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของประธานาธิบดี Luiz Inacio Lula da Silva เพื่อให้เป็นไปตามคํามั่นสัญญาในการหาเสียง ตัวเลขการขาดดุลงบประมาณในเดือนตุลาคมขยายเป็น 74.68 พันล้านเรียล ซึ่งสูงกว่า 53.8 พันล้านเรียลจากเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 50.1 พันล้านเรียล
แผนการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Fernando Haddad ในการลดการใช้จ่ายสาธารณะลง 70 พันล้านเรียลจนถึงปี 2026 พบกับความสงสัยเนื่องจากถือว่าไม่เพียงพอที่จะควบคุมการขาดดุลงบประมาณ การเพิ่มการยกเว้นภาษีสําหรับลูลาชาวบราซิลที่ยากจนทําให้เกิดข้อสงสัย ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่เต็มใจที่จะมุ่งมั่นในการปรับการคลัง
ความไม่แน่นอนทางการคลังนี้ส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อ ทําให้ธนาคารกลางของบราซิลพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงการผ่อนคลายนโยบาย อัตราดอกเบี้ยในตลาดบราซิลในปัจจุบันรวมถึงการเพิ่มขึ้น 88 จุดพื้นฐานในอัตราอ้างอิง Selic ในเดือนธันวาคม และอีก 91 จุดในเดือนมกราคม Gabriel Galipolo ผู้ว่าการธนาคารกลางที่กําลังจะมาถึงแสดงความกังวลเกี่ยวกับการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ไม่ได้ยึด โดยชี้ให้เห็นว่าบราซิลอาจต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นระยะเวลานาน
สินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่โดยทั่วไปลดลงตั้งแต่การเลือกตั้งของสหรัฐฯ โดยคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจะสูงขึ้นและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม การถดถอยของตลาดบราซิลนั้นรุนแรงเป็นพิเศษ โดยเงินเรียลที่ลดลง 20% ในปีนี้ถือเป็นสกุลเงินที่แย่ที่สุดในบรรดาสกุลเงินหลักและสกุลเงินกําลังพัฒนา ดัชนีหุ้น Ibovespa ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยลดลงกว่า 7% ในปีนี้ และทําผลงานได้ต่ํากว่าเมื่อเทียบกับหุ้นตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และเกณฑ์มาตรฐานทั่วโลก
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน