ท่าเรือชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เผชิญกับการนัดหยุดงานที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการเจรจาด้านแรงงานหยุดชะงัก

นายจ้างที่ท่าเรือชายฝั่งตะวันออกและอ่าวไทยของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของพันธมิตรทางทะเลสหรัฐอเมริกา (USMX) ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติด้านแรงงานที่ไม่เป็นธรรมต่อสมาคมชายฝั่งระหว่างประเทศ (ILA) โดยอ้างถึงการปฏิเสธของสหภาพแรงงานที่จะเจรจาสัญญาต่อไป การร้องเรียนที่ยื่นต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติ (NLRB) เกิดขึ้นในขณะที่สัญญาหลักหกปีในปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน โดยสมาชิก 45,000 คนของ ILA อาจนัดหยุดงานในวันที่ 1 ตุลาคม

USMX อ้างว่า ILA ปฏิเสธที่จะกลับไปที่โต๊ะเจรจาต่อรองซ้ําแล้วซ้ําเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งเกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้าง ทางตันทําให้เกิดความกังวลในหมู่ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการขนส่งทางทะเล เนื่องจากการนัดหยุดงานอาจขัดขวางการดําเนินงานที่ท่าเรือ 36 แห่งซึ่งเป็นส่วนสําคัญของการค้าทางทะเลมากกว่าครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ ท่าเรือเป็นช่องทางสําคัญสําหรับสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงอาหาร ชิ้นส่วนรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง และเสื้อผ้า

ทําเนียบขาวได้ชั่งน้ําหนักเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาด้วยความสุจริตใจ เจ้าหน้าที่ทําเนียบขาวเน้นย้ําถึงจุดยืนของฝ่ายบริหารที่ต่อต้านการใช้พระราชบัญญัติ Taft-Hartley เพื่อหยุดการนัดหยุดงาน และแสดงว่าเจ้าหน้าที่อาวุโสจากทําเนียบขาว กระทรวงแรงงาน และกระทรวง Transportation กําลังสนับสนุนการเจรจาระหว่าง USMX และ ILA อย่างแข็งขัน

เมื่อใกล้ถึงเส้นตายความวิตกกังวลก็เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการปิดท่าเรือ การวิเคราะห์โดย JPMorgan ประมาณการว่าการนัดหยุดงานอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน สิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อ่อนไหวเป็นพิเศษเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอาจทําให้ความตึงเครียดที่มีอยู่ในเครือข่ายการขนส่งทั่วโลกรุนแรงขึ้น

USMX ได้ขอการบรรเทาทุกข์ทันทีจาก NLRB เพื่อบังคับให้ ILA กลับมาเจรจาต่อและบรรลุข้อตกลง อย่างไรก็ตาม ILA ได้ปกป้องความพยายามในการเจรจา โดยระบุว่ามีส่วนสําคัญในการตกลงข้อตกลงในท้องถิ่นจํานวนมากในช่วงปีที่ผ่านมา

Harold Daggett ประธาน ILA International ระบุว่าสหภาพแรงงานได้ปฏิเสธข้อเสนอหลายอย่างจาก USMX ซึ่งเขาระบุว่าเป็นข้อเสนอค่าจ้างที่ไม่เพียงพอ

ในขณะที่ ILA ถูกกล่าวหาว่าเรียกร้องให้ขึ้นค่าจ้าง 77% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เห็นว่าเกินจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าการขึ้นค่าจ้างใด ๆ ที่ตกลงกันไว้จะเกินการขึ้นค่าจ้าง 32% ที่สหภาพแรงงานสําหรับคนงานท่าเรือชายฝั่งตะวันตกได้รับความไว้วางใจเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่ความขัดแย้งยังคงดําเนินต่อไป ความเสี่ยงของการหยุดชะงักอย่างมีนัยสําคัญต่อห่วงโซ่อุปทานและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็ปรากฏขึ้นอย่างมาก

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน