หุ้นสาธารณูปโภคทําผลงานได้ดีกว่า เนื่องจากนักลงทุนแสวงหาเสถียรภาพ

ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปัจจุบัน บริษัทสาธารณูปโภคได้กลายเป็นสัญญาณแห่งเสถียรภาพท่ามกลางการเทขายอย่างกว้างขวาง ภาคสาธารณูปโภค S&P 500 เพิ่มขึ้น 4% นับตั้งแต่ดัชนีอ้างอิงถึงจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ตรงกันข้ามกับดัชนีที่ลดลง 7% ในวงกว้าง ปีที่ผ่านมา ภาคส่วนนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 15% เกือบเท่ากับผลการดําเนินงานของภาคเทคโนโลยีและบริการการสื่อสาร ซึ่งเพิ่มขึ้น 17% และ 18% ตามลําดับ

การเปลี่ยนไปใช้สาธารณูปโภคส่วนหนึ่งเกิดจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น สิ่งนี้ทําให้ภาคสาธารณูปโภคที่อุดมไปด้วยเงินปันผลน่าสนใจยิ่งขึ้นสําหรับผู้ที่แสวงหารายได้ สาธารณูปโภคมักเป็นที่ชื่นชอบในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนสําหรับรายได้และเงินปันผลที่เชื่อถือได้

การเพิ่มความน่าสนใจของภาคส่วนนี้คือความตื่นเต้นเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และการใช้ไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเทคโนโลยี AI ความคาดหวังนี้มีส่วนทําให้หุ้นสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น

จากข้อมูลของ Chuck Carlson ซีอีโอของ Horizon Investment Services สาธารณูปโภคกําลังทําเครื่องหมายในช่องมากมายสําหรับนักลงทุนในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคสาธารณูปโภคมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.15% ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทน 1.7% ของ S&P 500 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงจากเกือบ 4.5% เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมเป็น 3.9% ซึ่งตอกย้ําความน่าดึงดูดใจของภาคส่วนนี้

นักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs ได้ตั้งข้อสังเกตว่าสาธารณูปโภคมักจะทํางานได้ดีที่สุดในช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ รวมถึงสามเดือนก่อนและหลัง การวิเคราะห์ของพวกเขาชี้ให้เห็นว่าภาคส่วนเชิงป้องกันมักจะเก่งเมื่อเริ่มมีวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งสอดคล้องกับการหมุนเวียนของตลาดในปัจจุบัน

ในด้านผลประกอบการ บริษัทสาธารณูปโภคยังแสดงการเติบโตของกําไรในไตรมาสที่สองที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13.5% และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 12.4% สําหรับทั้งปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของรายได้ 10.5% ที่คาดการณ์ไว้ของ S&P 500

Paul Nolte ที่ปรึกษาอาวุโสด้านความมั่งคั่งและนักกลยุทธ์ตลาดของ Murphy & Sylvest Wealth Management ตั้งข้อสังเกตว่าผลการดําเนินงานของสาธารณูปโภคอาจเกินความคาดหมายในทศวรรษหน้า เนื่องจากความต้องการพลังงานที่สําคัญของเทคโนโลยี AI ซึ่งอาจส่งผลดีต่อผลกําไรของบริษัทสาธารณูปโภค

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน