รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเนื่องจาก CPI ของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัว

เผยแพร่ 11/08/2565 11:46
อัพเดท 11/08/2565 13:55
© Reuters.

โดย  Ambar Warrick 

Investing.com - หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดีตามหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นวอลสตรีทหลังจากที่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่หุ้นสิงคโปร์หดตัวจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตที่ชะลอตัวที่เกิดขึ้นในประเทศ

ดัชนีฮั่งเส็ง ที่มีกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในฮ่องกงทำผลงานที่ดีที่สุดในตลาดเอเชีย โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 2% ในเวลา 00.09 ET (04.09 GMT)  บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Baidu (NASDAQ:BIDU) Tencent และ Alibaba (NYSE:BABA) เพิ่มขึ้นระหว่าง 1.3% ถึง 4%

ดัชนีหุ้นบลูชิพ Nifty 50 ของอินเดียก็ปรับตัวขึ้นเนื่องจากความแข็งแกร่งในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Infosys (NYSE:INFY) และ Wipro (NYSE:WIT)

ดัชนีหุ้นบลูชิพ CSI 300 ของจีนพุ่งขึ้น 1.5% ฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างหนักในช่วงก่อนหน้าหลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิตในประเทศลดลงในเดือนกรกฎาคม

หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นวอลสตรีทหลังจากรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวเกินคาดได้ผลักดันความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเข้มงวดน้อยลงในปีนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ เป็นกลุ่มที่ได้กำไรข้ามคืนสูงสุด ดัชนี Nasdaq คอมโพสิต พุ่งขึ้นเกือบ 3%

ขณะนี้นักลงทุนกำลังเดิมพันตัวเลขอัตราดอกเบี้ยว่าเฟดจะขึ้นที่ 50 จุดพื้นฐาน ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการปรับขึ้นที่ 75 จุดพื้นฐาน

แต่ถึงแม้จะค่าเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลง แต่เจ้าหน้าที่ของเฟดก็กล่าวว่าการเข้มงวดนโยบายการเงินในปีนี้ยังคงมีความจำเป็น อัตราเงินเฟ้อ CPI ซึ่งเติบโตในอัตรา 8.5% ต่อปีในเดือนกรกฎาคมยังคงสูงกว่าช่วงเป้าหมายของเฟดที่ 2%

ตลาดสกุลเงินเอเชียได้ปรับตัวลดลงจากความกลัวว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่

ตลาดหุ้นสิงคโปร์ซื้อขายต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาคหลังจากที่ประเทศลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปีที่ 3% ถึง 4% จาก 3% เป็น 5%

ดัชนีหุ้นสิงคโปร์ของ MSCI ร่วงลง 0.8% และเป็นทำผลงานที่แย่ที่สุดของวันในตลาดเอเชีย

ประเทศกำลังเผชิญกับปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นั่นคือการล็อกดาวน์จากโควิด19 ในจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสิงค์โปร์ นอกจากนี้ยังเห็นว่า GDP ไตรมาสสองของสิงคโปร์ปรับลดลงเหลือ 4.4% จาก 4.8%

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย