โดย Zhang Mengying
Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกร่วงลงในเช้าวันจันทร์เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซา
นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.62% เมื่อเวลา 22:46 น. ET (2:46 น. GMT)
KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.37%
ASX 200 ในออสเตรเลียขยับลดลงเล็กน้อย 0.09%
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.68%
เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.28% ในขณะที่ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE ลดลง 0.50%
S&P 500 ร่วงลง 0.93% และ Nasdaq 100 ที่ดิ่งลง 1.77% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เนื่องจากผลการสำรวจพบว่ากิจกรรมทางธุรกิจหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปีท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ร้อนแรงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
อัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 2.79% ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนคาดการณ์ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในระดับปานกลางและทำให้การตึงตัวของค่าเงินอ่อนตัวลง
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และราคาน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งสะท้อนถึงอารมณ์ของนักลงทุนที่ยังคงระมัดระวังในการเทรด
ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอการตัดสินใจด้านนโยบายในสัปดาห์นี้จากธนาคารกลางสหรัฐฯ เช่นเดียวกับรายงานรายได้จาก Google Alphabet (NASDAQ:GOOGL) Inc. และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple Inc (NASDAQ:AAPL ) ซึ่งจะช่วยให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น
“เรายังคงเห็นข้อเสียเพิ่มเติมสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เพราะตลาดยังมีความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอย และธนาคารกลางยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ” อีริค โรเบิร์ตเซ่น หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของ Bank Plc สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (OTC:SCBFF) กล่าวในบันทึก
ตลาดต่างเชื่อว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย75 จุดพื้นฐานจากเฟด โดยมีโอกาสประมาณ 9% ที่จะเพิ่มขึ้นเต็มหนึ่งเปอร์เซ็นต์
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เธอไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะถดถอยในวงกว้าง
ฝั่งเอเชียแปซิฟิก นักลงทุนกำลังรอความคืบหน้าในแผนการปรับโครงสร้างสำหรับ China Evergrande (HK:3333) Group เนื่องจากผู้พัฒนาที่เป็นหนี้มากที่สุดในโลกได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะแผนเบื้องต้นจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม