โดย Peter Nurse
Investing.com – ตลาดหุ้นยุโรปขยับลงเล็กน้อยในวันศุกร์ โดยสิ้นสุดสัปดาห์ด้วยการซื้อขายแบบระมัดระวังก่อนการแถลงของ คริสติน ลาการ์ดของ ประธาน ECB รวมถึงรายงานการจ้างงานรายเดือนของสหรัฐฯ ที่นักลงทุนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อเวลา 03:45 น. ET (0745 GMT) DAX ในเยอรมนีซื้อขายลดลง 0.1% CAC 40 ในฝรั่งเศสลดลง 0.1% และ FTSE 100 สหราชอาณาจักรลดลง 0.1%
ดัชนียุโรปดีดตัวขึ้นในระดับหนึ่งในสัปดาห์นี้ หลังจากการเทขายอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งปีแรกของปี โดยนักลงทุนพยายามที่จะขจัดความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของธนาคารกลางทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ชั่งใจและพยายามประเมินผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกที่จะมีต่อการเติบโตทั่วโลก
นอกจากนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นคือ การลอบยิงอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโส อาเบะ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และวิกฤตทางการเมืองในสหราชอาณาจักรที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งส่งผลให้นายบอริส จอห์นสันต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างบรรยากาศแห่งความไม่แน่นอนในตลาดโลก
คำแถลงของ คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปในเซสชั่นเรื่องความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญอยู่ จะเป็นที่สนใจอย่างมากก่อนการประชุมครั้งต่อไปของธนาคารกลางซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเผยแพร่รายงาน ตำแหน่งงานว่างรายเดือน ซึ่งคาดว่าจะแสดงจำนวนชาวอเมริกันที่ถูกจ้างงานเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยในเดือนมิถุนายน แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับจำนวน งานที่เพิ่มในเดือนพฤษภาคมได้
ข่าวองค์กร หุ้น BMW (ETR:BMWG) ลดลง 0.4% หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์สัญชาติเยอรมันขายรถยนต์ได้น้อยลงกว่า 13% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนชิปและการล็อกดาวน์เป็นระยะ ๆ จากประเทศจีน โดยมียอดขายลดลงเกือบ 20% ในไตรมาสที่สอง
หุ้น JD Sports (LON:JD) เพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากบริษัทได้แต่งตั้ง Andrew Higginson เป็นประธานคนใหม่ โดยจะมีผลในวันจันทร์ ขณะที่ หุ้น Tag Immobilien (ETR:TEGG ) ร่วงลงราว 9% หลังจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์สัญชาติเยอรมันที่ประสบปัญหา ได้ประกาศว่าจะพยายามระดมทุน 200 ล้านยูโร (204 ล้านดอลลาร์) แลกกับส่วนลดจำนวนมากในการเพิ่มทุน
ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงในวันศุกร์ ซึ่งแน่นอนว่าขาดทุนเป็นครั้งที่สองติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยและอุปสงค์ที่ถูกทำลายนั้นยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลข น้ำมันดิบสหรัฐฯคงคลัง พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามข้อมูลที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีจาก สถาบันจัดการข้อมูลด้านพลังงาน EIA โดยมีน้ำมันดิบคงคลังเหลือเพียง 8 ล้านบาร์เรล
ในเวลา 03:45 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.7% เป็น 101.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 0.5% เป็น 104.12 ดอลลาร์ ดัชนีทั้งสองร่วงลงมาใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันพุธ ขณะที่ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 10.73 ดอลลาร์ในวันอังคารเป็นการร่วงลงที่ใหญ่เป็นครั้งที่สามนับตั้งแต่เริ่มการซื้อขายในปี 1988
นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.4% เป็น 1,733.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ EUR/USD ลดลง 0.7% เป็น 1.0088