โดย Zhang Mengying
Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้น ในเช้าวันจันทร์หลังจากหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในปลายสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าจะมีความกลัวว่าเงินเฟ้อจะยืดเยื้อและภาวะเศรษฐกิจจะถดถอยอันเนื่องมาจากการนโยบายกระชับการเงิน
นิคเคอิ225ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.40% เมื่อเวลา 22:37 น. ET (2:37 น. GMT)
KOSPI ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 2.00%
ASX 200 ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 1.91%
Hang Seng ของฮ่องกงพุ่งขึ้น 2.69%
เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนเพิ่มขึ้น 1.11% ในขณะที่ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE เพิ่มขึ้น 0.69%
S&P 500 ในวันศุกร์พุ่งขึ้นมากกว่า 3%
อัตราผลตอบแทนปรับลดจากระดับสูงสุดในเดือนมิถุนายน ทำให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.13%
กลุ่มผู้นำ G-7 วางแผนที่จะให้การสนับสนุนยูเครนอย่างไม่มีข้อจำกัดเพื่อป้องกันการโจมตีของรัสเซีย สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และแคนาดา ยังวางแผนที่จะประกาศห้ามการนำเข้าทองคำใหม่จากรัสเซียในระหว่างการประชุมสุดยอด G-7
นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคาและนโยบายที่เข้มงวดขึ้น
“การซื้อขายของตลาดยังคงมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยระหว่างนโยบายการเงินที่ใช้เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงและความกลัวว่าปลายทางของเศรษฐกิจจะบอบช้ำมาก” Damien McColough นักยุทธศาสตร์ของ Westpac กล่าวในหมายเหตุ
“จะมีการหารือกันอย่างต่อเนื่องว่าผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวถึงจุดสูงสุดแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม เรายังไม่คาดการณ์ว่าผลตอบแทนอายุ 10 ปีจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ต่ำกว่า 3%”
นักลงทุนยังคงวิเคราะห์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อในขณะนี้ เป็นตัวเลขถึงจุดสูงสุดหรือยัง
“มีความรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิด” Carol Pepper ผู้ก่อตั้ง Pepper International กล่าวกับบลูมเบิร์ก เปปเปอร์เสริมว่า “มันมีความคิดที่ว่าว่าบางทีเราอาจเทขายมากเกินไป บางทีอาจจะไม่เกิดภาวะถดถอยก็ได้”
แมรี่ เดลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐแห่งซานฟรานซิสโก กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าเธอสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดพื้นฐานในเดือนกรกฎาคม ขณะที่เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์กล่าวว่าความกลัวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยนั้นมีมากเกินความจริง
ฝั่งเอเชียแปซิฟิก ดัชนี PMI ของจีน จะครบกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี