หุ้นยุโรปปรับสูงขึ้น ผลจากข้อมูลการจ้างงานของฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร

โดย  Peter Nurse

Investing.com – ตลาดหุ้นยุโรปซื้อขายสูงขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานในภูมิภาคที่แข็งแกร่งบางส่วน แต่ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางยังคงสูงอยู่

ในเวลา 04.00 น. ET (0800 GMT) DAX ในเยอรมนีซื้อขายสูงขึ้น 1.1% CAC 40 ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 1% และ FTSE 100 ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 0.4%

หุ้นยุโรปอ่อนค่าลงเมื่อเดือนที่แล้ว โดย DAX ลดลง 1.2%, CAC 40 ลดลง 3.7% และ FTSE 100 ลดลง 2% จากความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ การล็อกดาวน์จากโควิดในจีน และสงคราม ยูเครนจะชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม มีบรรยากาศของการมองโลกในแง่ดีมากขึ้นเมื่อวันอังคาร โดยมีข้อมูลจาก อัตราการว่างงาน ของฝรั่งเศสซึ่งตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีในไตรมาสแรก โดยลดลงมาอยู่ที่ 7.3%

ในเวลาเดียวกัน อัตราการว่างงาน ของสหราชอาณาจักรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1974 ที่ 3.7% ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ โดย จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการ ได้น้อยกว่า 57,000 คนในเดือนเมษายน

ในช่วงหลังของเซสชั่น การคาดการณ์ที่สอง GDP ของยูโรโซนสำหรับไตรมาสแรกคาดว่าจะแสดงการเติบโตเล็กน้อย 0.2% ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 5.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โดยอย่างที่ทราบกันการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้เป็นอดีตไปแล้ว และ ดัชนีภาคการผลิตเขตรัฐนิวยอร์ก ที่เป็นปัจจุบันมากกว่าได้แสดงให้เห็นว่ามีการลดลงอย่างกะทันหันในช่วงเดือนพฤษภาคมในวันจันทร์

สงครามในยูเครนยังคงเป็นจุดสนใจหลักสำหรับนักลงทุน โดยกรุงเคียฟระบุเมื่อวันจันทร์ว่ากองกำลังของตนปกป้องเมืองคาคีฟที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ได้ขับไล่กองกำลังของรัสเซียและรุกล้ำไปไกลถึงพรมแดนรัสเซีย

นอกจากนี้ ฟินแลนด์และสวีเดนเตรียมส่งใบสมัครอย่างเป็นทางการที่สำนักงานใหญ่ของ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ในสัปดาห์นี้

ในภาคธุรกิจ หุ้นVodafone (LON:VOD) ร่วงลง 1.5% หลังจากที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือคาดการณ์การเติบโตของกำไรสำหรับปีปัจจุบันต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยอ้างว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีความยากลำบาก

ในทางกลับกัน หุ้นของ Imperial Brands (LON:IMB) พุ่งขึ้น 6% โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยาสูบ ได้รายงาน กำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากยอดขายในครึ่งปีแรกแม้ว่าจะเจอศึกครั้งใหญ่ก็ตาม ในการออกจากรัสเซีย

หุ้น ContourGlobal (LON:GLO) พุ่งขึ้น 33% หลังจากบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ KKR ตกลงซื้อบริษัทผลิตไฟฟ้ามูลค่า 1.75 พันล้านปอนด์ (2.16 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลเพื่อขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียน 

ราคาน้ำมันทรงตัวเมื่อวันอังคารหลังจากสหภาพยุโรปล้มเหลวในการหาข้อตกลงอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการห้ามนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซีย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่จะทำให้อุปทานทั่วโลกตึงตัวยิ่งขึ้น

รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปล้มเหลวในความพยายามของพวกเขาในวันจันทร์ที่จะให้ฮังการียกเลิกการคัดค้านการแบนน้ำมันของรัสเซียที่เสนอให้กับกลุ่มเพื่อตอบสนองต่อการบุกรุกของยูเครน ข้อเสนอนี้จะต้องมีการเจรจาเพิ่มเติม

นักลงทุนกำลังรอ รายงานการจัดหาน้ำมันของน้ำมันดิบ จาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน จะครบกำหนดในวันรุ่งขึ้น

ในเวลา 04.00 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายลดลง 0.1% เป็น 111.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ขยับต่ำลงเป็น 114.20 ดอลลาร์ สัญญาทั้งสองทำกำไรมากกว่า 2% ในวันจันทร์ เพิ่มขึ้นจาก 4% ที่ได้ในวันศุกร์

นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 1,823.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในขณะที่ EUR/USD ซื้อขายสูงขึ้น 0.3% ที่ 1.0460