หุ้นยุโรปขยับขึ้นจากวิกฤตในยูเครนและการอภิปรายการเลือกตั้งของฝรั่งเศส

โดย  Peter Nurse

Investing.com – ตลาดหุ้นยุโรปขยับสูงขึ้นในวันพุธ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักลงทุนติดตามสงครามในยูเครนที่มีการพัฒนาความรุนแรงขึ้นรวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองจากทางฝรั่งเศส

เมื่อเวลา 04.00 น. ET (08.00 GMT) DAX ในเยอรมนีซื้อขายสูงขึ้น 0.3% CAC 40 ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.5% และ FTSE 100 สหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น 0.1%

รัสเซียยังคงโจมตีสองจังหวัดทางตะวันออกของยูเครนอีกครั้งเมื่อวันพุธ และเจ้าหน้าที่ยูเครนเรียกการปฏิบัติการนี้ว่า Battle of the Donbas กระตุ้นให้รัฐบาลตะวันตกส่งความช่วยเหลือทางทหารแก่กรุงเคียฟมากขึ้น

ความวุ่นวายจากการรุกรานของรัสเซียทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เป็นครั้งที่สองในปีนี้ โดยขณะนี้คาดการณ์การเติบโตทั่วโลกที่ 3.6% ทั้งในปี 2022 และ 2023 ลดลง 0.8 และ 0.2 เปอร์เซ็นต์ คะแนน ตามลำดับ

นอกจากยูเครนแล้ว นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับการอภิปรายการเลือกตั้งในวันพุธนี้ ระหว่างประธานาธิบดีฝรั่งเศสเอ็มมานูเอล มาครง และผู้ท้าชิงฝ่ายขวามารีน เลอ แปง ซึ่งหนึ่งในสองนี้จะได้บริหารประเทศในอีกห้าปีข้างหน้า

ข่าวขององค์กร หุ้น Credit Suisse (SIX:CSGN) ร่วงลง 1.5% หลังจากที่ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสวิสระบุเมื่อวันพุธว่า บริษัทคาดว่าจะขาดทุนในไตรมาสแรกหลังจากที่มีการเพิ่มบทบัญญัติทางกฎหมายขึ้นอย่างมาก

หุ้น Danone (EPA:DANO) พุ่งขึ้น 7% หลังจากที่กลุ่มอาหารฝรั่งเศสมียอดขายเติบโตแข็งแกร่งเกินคาด 7.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการเติบโตของยอดขายที่เร็วที่สุดในรอบเจ็ดปี

ไฮเนเก้น (OTC:HEINY) หุ้นเพิ่มขึ้น 3.4% หลังจากที่บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับยอดขายเบียร์ในไตรมาสแรกเนื่องจากบาร์ยุโรปกลับมาเปิดใหม่ ขณะที่ ASML (AS:ASML) หุ้นเพิ่มขึ้น 2.6% หลังจากที่บริษัทประกาศแผนการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับอุปกรณ์การผลิตชิประดับไฮเอนด์หลังจากไตรมาสที่แข็งแกร่งอีกไตรมาสหนึ่ง

กระดานข้อมูลเศรษฐกิจจะให้ความสำคัญที่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยตัวเลขประจำปีคาดว่าจะดีดตัวขึ้นเป็น 1.5% หลังจากที่ลดลง 1.3% ในเดือนก่อนหน้า

นอกจากนี้ การจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในยุโรปลดลง 19% ในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ 1.13 ล้านคัน ลดลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน เนื่องจากสงครามในยูเครนทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักลง

ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในวันพุธจากการขาดทุนอย่างหนักในช่วงเซสชั่นก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ที่แสดงตัวเลขของ น้ำมันดิบสหรัฐฯ WTI ในคลังสำรองที่ลดลงต่ำกว่า 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยชี้ให้เห็นว่ามีความต้องการน้ำมันจากประเทศที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก

ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจาก สำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา ที่จะส่งมอบในตอนท้ายของวัน

เมื่อเวลา 04.00 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบWTI พุ่งขึ้น 1.4% ที่ 103.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์t เพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 108.64 ดอลลาร์ เกณฑ์มาตรฐานทั้งสองลดลงเพียง 5% ในวันอังคาร

นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.9% มาที่ 1,944.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในขณะที่ EUR/USD ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 1.0807