Investing.com - หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงในวันแรกของไตรมาสสี่ หลังจากตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอกว่าคาดทำให้เกิดการเทขายในตลาดเมื่อวานนี้
ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 1.23% ขณะที่ ดัชนี Dow Jones industrials ร่วง 1.3% ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ปิดลบ 1.13% การปรับลง 344 จุดของดาวโจนส์ถือเป็นการลดลงสูงสุดในรอบวันนับตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ตลาดปรับลงถึง 623 จุด
หุ้นกลุ่มที่ปรับลงมากที่สุด ได้แก่ หุ้นอุตสาหกรรมหลัก ๆ ของสหรัฐฯ เช่น 3M (NYSE:MMM), Dow Inc. (NYSE:DOW), General Motors (NYSE:GM), Ford Motor (NYSE:F) และ Caterpillar (NYSE:CAT).
ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ดูเหมือนจะต้านทานแรงเทขายได้ดีกว่าหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งหุ้นในกลุ่ม SmallCap 2000 NR นั้นร่วงลงถึง 2.35%
เช่นเดียวกับ บริษัทที่เพิ่งเข้า IPO ได้ไม่นาน ก็ได้รับผลกระทบจากแรงเทขายครั้งนี้ โดย Uber Technologies (NYSE:UBER) และ Lyft (NASDAQ:LYFT) ต่างดิ่งลง 4.3% และ 3.1% ตามลำดับ
การเทขายที่เกิดขึ้นเกิดจากรายงานภาคการผลิตที่แย่กว่าคาดการณ์ โดยรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ของสหรัฐฯ ลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีสะท้อนถึงผลกระทบจากตลาดส่งออกที่หดตัวลงจากสถานการณ์สงครามการค้ากับจีน ทั้งนี้ทีมเจรจาระหว่างสองชาติมีกำหนดจะพบกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้