Investing.com - ราคาน้ำมันยังคงปรับลงอย่างต่อเนื่องในเช้าวันนี้ที่ฝั่งภูมิภาคเอเชีย หลังจากบริษัทผลิตน้ำมันสัญชาติสหรัฐฯ Chevron Corp (NYSE:CVX) และ Exxon Mobil Corp (NYSE:XOM) ต่างก็คาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตน้ำมันจะเพิ่มมากขึ้น และปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบที่จะมีมากเกินกว่าที่คาดไว้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ ปรับลง 0.78% สู่ระดับ $56.12 ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 11:42 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (04:42 AM GMT) ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ของทั่วโลกปรับลง 0.73% เท่ากับ $65.38 ต่อบาร์เรล
บริษัทผู้ค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ Chevron และ Exxon Mobil ได้กล่าวไว้เมื่อวานว่า ทั้งสองบริษัทต่างก็มีแผนในการผลิตหินน้ำมันในอัตรากว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันที่ Permian Basin ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำมันที่ผลิตน้ำมันได้มากที่สุดของสหรัฐฯ การกระทำดังกล่าวจึงอาจทำให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันสองรายที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ สามารถยึดครองตลาดในเท็กซัสตะวันตกและนิวเม็กซิโกได้ในอีกห้าปีข้างหน้า
นอกจากนี้ สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐฯ ได้รายงานปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบที่เพิ่มมากขึ้น 7.3 ล้านบาร์เรลของสัปดาห์ที่แล้ว และมีปริมาณรวม 451.5 ล้านบาร์เรล สูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1.2 ล้านบาร์เรล แค่เพียงปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบที่แหล่งกักเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา แห่งเดียวมีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 1.1 ล้านบาร์เรล
ปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาผลกระทบอันเนื่องมาจากการลดกำลังการผลิตสูงสุดถึง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) จากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตรโดยเฉพาะประเทศรัสเซีย
แหล่งข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โอเปกมีแนวโน้มที่จะยืดเวลาการตัดสินใจว่าจะเลื่อนกำหนดเวลาในข้อตกลงการลดกำลังการผลิตหรือไม่ ซึ่งจะเลื่อนจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าเดือนเมษายนเปลี่ยนเป็นเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานในระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนประจำปี ได้มีการระบุในแผนการดำเนินงานของคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติว่า จีนมีแผนที่จะการสร้างบริษัทน้ำมันและท่อส่งน้ำมันเป็นของตนเอง
ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐฯ จะมีการประกาศในช่วงบ่ายวันนี้ และ Baker Hughes มีกำหนดการที่จะเผยแพร่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานอยู่ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้