โดย Oliver Gray
Investing.com - สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในวันพุธนี้ ภายหลังการเทขายหุ้นในดัชนีหลัก หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ลดความเชื่อมั่นต่อความเสี่ยง ในขณะที่นักลงทุนต่างเตรียมพร้อมสำหรับผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ในสัปดาห์นี้
ในคืนวันอังคาร ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 543.34 จุดหรือ 1.51% มาที่ 35368.48, S&P 500 ลดลง 85.74 จุดหรือ 1.84% ที่ 4577.1 และ NASDAQ Composite ลดลง 386.86 จุด หรือ 2.6% มาอยู่ที่ 14506.9
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.07%, สัญญาซื้อขายล่วงหน้าS&P 500 เพิ่ม 0.08% และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าNasdaq 100 ได้รับ 0.07%
ในบรรดาหุ้นสหรัฐฯที่น่าจับตา บริษัทการเงินรายใหญ่ได้รับผลกระทบหลังจาก Goldman Sachs (NYSE:GS) รายงานผลประกอบการออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 23% จากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นสำหรับพนักงาน JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) ลดลง 4.19%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) ลดลง 1.21%, Bank of America Corp (NYSE:{{243|BAC:BAC) ) ลดลง 3.44% Citigroup Inc (NYSE:C) ลดลง 2.44% และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) ลดลง 2.36%
หุ้นเทคโนโลยียังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 2.47%, Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ลดลง 1.99%, Meta Platforms Inc (NASDAQ: FB) ลดลง 4.14%, Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ลดลง 1.89%, Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ลดลง 2.5%, NVIDIA Corporation (NASDAQ) :NVDA) ลดลง 3.86% และ Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) ลดลง 3.62% Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 2.43% หลังจากประกาศว่ายักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์จะซื้อบริษัทวิดีโอเกม Activision Blizzard (NASDAQ:ATVI) ในราคา 68.7 พันล้านดอลลาร์ ด้านหุ้นของ Activision Blizzard เพิ่มขึ้น 25.88%
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดย Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ลดลง 1.82% ขณะที่ Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) และ Lucid Group Inc (NASDAQ: LCID) ลดลง 8.49% และ 9.13% ตามลำดับ
ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 1.875% หลังนักลงทุนเตรียมรับมือกับการกระชับนโยบายของเฟด
ในด้านข้อมูล ดัชนีภาคการผลิตเขตรัฐนิวยอร์ก นั้นต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก โดยถือเป็นกิจกรรมที่หดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2020 ท่ามกลางการแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
นักลงทุนจะติดตามรายงานผลประกอบการจำนวนมากอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ โดยมีรายงานรายไตรมาสจากบริษัท 35 แห่ง ซึ่งรวมถึง Bank of America Corp (NYSE:BAC), Morgan Stanley (NYSE:MS ), Procter & Gamble Company (NYSE:PG), US Bancorp (NYSE:USB), United Health Products Inc (OTC:UEEC) และ United Airlines Holdings Inc (NASDAQ:UAL)